ผู้เชี่ยวชาญด้ารการเงิน นาย Anthony Scaramucci เชื่อว่า bitcoin จะเป็นมาตรฐานทางการเงินที่วันหนึ่งอาจกลายเป็นสกุลเงินสำรองทั่วโลก พร้อมอธิบายลักษณะที่ผันผวนของ BTC ว่ามันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
BTC มีประสิทธิภาพในด้านเครือข่ายการเงิน
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Natalie Brunell ผู้ก่อตั้งบริษัทกองทุน SkyBridge Capital นาย Anthony Scaramucci ได้แบ่งปันจุดยืนของเขาเกี่ยวกับข้อดีของ bitcoin การที่มันสามารถถูกพัฒนาให้ดีขึ้นได้ในอนาคต
เขาได้กล่าวถึงการที่ Bitcoin มีความผันผวนสูงนั้นเป็นเรื่องปกติเนื่องจากว่าเหรียญดังกล่าวนั้นยังค่อนข้างใหม่อยู่ และเปรียบเทียบ Bitcoin กับบริษัท Amazon ในช่วงยุคก่อตั้ง นอกจากนี้นาย Anthony ยังเตือนว่ายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซตอนนี้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ ซึ่งบอกเป็นนัยว่า BTC กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว
“Bitcoin มีความผันผวนเพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้น อเมซอนมีเส้นโค้งผันผวนเหมือนกันเมื่อ 24 ปีที่แล้ว แต่ถ้าคุณนำเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปซื้อหุ้น IPO ของ Amazon ในวันนั้น คุณจะมีเงิน 21 ล้านดอลลาร์ในวันนี้”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Scaramucci ออกมาแสดงความเห็นในเชิงเปรียบเทียบเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม เขาเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านราคาของ BTC กับหุ้นของ Amazon และมีความเชื่อว่า bitcoin ดีกว่าทองคำ
Scaramucci กล่าวเพิ่มเติมว่า bitcoin ไม่ใช่แค่สกุลเงินเท่านั้น แต่เป็นเครือข่ายทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานทางการเงินที่ดีอีกด้วย ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของมันก็คือการกระจายอำนาจ:
“Bitcoin มีการกระจายอำนาจ และเรารู้กันดีว่าเครื่องมือทางการเงินที่ดีคือการมอบอำนาจสู่มือของประชาชน มากกว่าส่งให้รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ”
ต้องศึกษาด้วยตัวเอง
แม้จะยกย่อง BTC เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงแต่ Scaramucci ก็เผยว่าเขาไม่ได้ให้การสนับสนุนเหรียญนี้เหรียญเดียวเท่านั้น แต่เขายังเห็นศักยภาพในสินทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งนั่นรวมถึง Ethereum อีกด้วย
นอกจากนี้ เขายังกระตุ้นให้ผู้คนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล
“ทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่ต้องการเป็นเจ้าของ bitcoin อย่าเพิ่งพูดว่า: ‘โอ้ นี่มันยาเบื่อหนู’”
เมื่อพูดถึงการเริ่มต้นลงทุนในครั้งแรก นาย Scaramucci แนะนำให้ประชาชนจัดสรรพอร์ทการลงทุนไม่เกิน 5% ของเงินออมทั้งหมดของพวกเขา ดังนั้นในกรณีที่ราคาพุ่งขึ้น พวกเขายังคงได้รับผลกำไรที่มั่นคง ในทางกลับกัน หากมูลค่าของ bitcoin เริ่มลดลง ก็จะไม่เจ็บตัวมากนัก
ต่อจากนั้น เขามีความเห็นว่า bitcoin ได้มาถึงระดับที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจที่จะหยุดมันได้แล้ว แต่ในทางกลับกันพวกเขากลับทำได้เพียงเก็บภาษีหรือควบคุมภาษี ซึ่งพวกเขาได้พยายามมาตลอดในปีที่ผ่านมา