เอลซัลวาดอร์กำลังสร้างประวัติศาตร์ครั้งยิ่งใหญ่ในฐานะประเทศแรกที่ประชากรกว่า 50% มีกระเป๋าเงิน Bitcoin และเป็นประเทศแรกที่สามารถนำบิตคอยน์เข้ามาชำระหนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยตอนนี้ชาวซัลวาดอร์กว่า 3 ล้านคนกำลังใช้กระเป๋าเงิน Chivo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับการยอมรับจาก Nayib Bukele ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นั่นคือประชากรจำนวน 6.4 ล้านคน โดยเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี 800,000 คนทำให้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ตอนนี้เปิดรับ Bitcoin เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ร้านค้าและซูปเปอร์มาร์เก็ตต่างยอมรับการชำระเงินด้วย crypto เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าของร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่านใจกลางเมืองของซานซัลวาดอร์ได้กล่าวว่า “ผมเห็นลูกค้ามากถึง 10 รายต่อวันที่ต้องการจ่ายเงินเป็น Bitcoin เพื่อซื้อหูฟัง ที่ชาร์จ และเคสโทรศัพท์”
โดยธุรกรรมต่าง ๆ นั้นจะไม่มีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าถึงเลือกการจ่ายเงินดังกล่าว ส่วนในกรณีต่อมาคือการส่งเงินกลับบ้านเกิดซึ่งคิดเป็น 20% ของจำนวนประชากรในเอลซัลวาดอร์เลยทีเดียว
แอปอย่าง Chivo และ Strike ทำการแปลงจากดอลลาร์เป็น Bitcoin แทบจะในทันที โดย Strike เป็นกระเป๋าเงินเพื่อผลกำไร แต่ Chivo ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ดังนั้นจึงไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลง และไม่มีสเปรด
รัฐบาลหวังว่าพวกเขาจะสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายนี้ผ่านการถือครอง crypto หลังจากซื้อ 700 bitcoin มูลค่าเกือบ 40 ล้านเหรียญ โดยอยู่ในช่วงที่ราคาของ BTC ลดลงเหลือ 40,000 ดอลลาร์ โดยในขณะนี้ Bitcoin ทำราคาสูงขึ้นเป็นอย่างมากตั้งแต่เอลซัลวาดอร์ประกาศว่าถูกกฎหมาย โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 55,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามเอลซัลวาดอร์สามารถประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคารได้มากถีง 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี วึ่งเป็นผลมาจาก GDP มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่อาจมีผลกระทบเมื่อนำเงินไปลงทุนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่ในวงกว้าง ทั้งนี้มีเพียง 30% เท่านั้นที่มีบัญชีธนาคาร และกว่า 50% มีกระเป๋าเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับเพราะว่า Bitcoin มีแนวโน้มที่จะมีวัฏจักรขาขึ้นและขาลงที่รุนแรง ซึ่งในการลงทุนในระดับประเทศนี้อาจเป็นอันตรายได้
นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องให้การศึกษาแก่ประชาชนอย่างเป็นกลาง เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า Bukele ค่อนข้างจะอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงในบางครั้งเกี่ยวกับการลงทุนที่กำไร แต่ผู้สนับสนุน Bitcoin มักมีข้อจำกัดพิเศษเพราะฉะนั้นพวกกเขาบอกว่า “อย่าเพิ่งเบื่อ หาข้อมูลก่อน”
อย่างไรก็ดีประชาชนจำเป็นต้องได้รับแจ้งว่า crypto นั้นมีความเสี่ยงและผันผวนมาก และคุณอาจสูญเสียเงินจากการลงทุนของคุณในระยะสั้นหรือระยะกลาง ซึ่งอาจสูญเสียถึง 80% และอาจจะไม่ฟื้นตัวอีกเลย
ทั้งนี้การศึกษาที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุ 20 ถึง 40 ปี ซึ่งสามารถยอมเสี่ยงได้ แต่ในระดับประเทศอาจจะต้องนึกถึงคุณยายหรือคนจนด้วย และรัฐบาลจะมอบความสำคัญของ Bitcoin ให้กับคนในทุกชนชั้นเพื่อเป็นช่องทางในการชำระเงินแทนที่ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามวผู้คนอาจเข้าไปสมัครกระเป๋าเงินดิจิทัลเนื่องจากเป็นการรับบิตคอยน์ฟรี 30 ดอลลาร์ ซึ่งตราบใดที่ได้รับการเรียนรู้และเป็นอย่างดี เช่น การบริหารความเสี่ยง ก็คงได้เห็นถึงการดำเนินการที่เป็นไปอย่างที่คาดไว้ในปี 2014 ว่าบิตคอยน์จะเข้ามาแทนที่การชำระเงินได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้เราก็ได้เริ่มเห็นกันบ้างแล้ว