<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Michael Burry จากหนังชื่อดัง The Big Short กล่าวโจมตีเหรียญ Shiba Inu ว่า “ไร้สาระ”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Michael Burry นักลงทุนที่มีชื่อเสียงในการทำนายวิกฤตอสังหาฯ ของสหรัฐฯ ในปี 2008 ได้อย่างแม่นยำจนต้องนำมาทำเป็นหนัง The Big Short ได้ออกมากล่าวโจมตีเหรียญ Shiba Inu ว่า “ไร้สาระ”

โดยจุดที่เขานำมาโจมตีเหรียญ SHIB นั้นก็คือจำนวน supply ของมันที่มีมากถึง 1 ล้านล้านล้านล้านเหรียญแล้วในตอนนี้ โดยเขากล่าวว่า

“แค่พูดว่า หนึ่งล้านล้านวินาทีก็ประมาณ 32 ล้านปี หนึ่งล้านล้านวันคือ 2.7 ล้านล้านปีหรือตลอดเวลาจากจุดเริ่มต้นของจักรวาล คูณด้วย 71,000 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมันไร้สาระ”

สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับกรณีการใช้งานของ Bitcoin เนื่องจากว่ามันมีระบบป้องกันเงินเฟ้อด้วยการจำกัดจำนวนเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมดที่ 21 ล้านเหรียญ นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่า BTC ถือเป็นทองคำดิจิทัล Marion Laboure นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank Research กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเธอคาดการณ์ว่า Bitcoin จะกลายเป็นทองคำแห่งศตวรรษที่ 21

นอกจากนี้นาย Burry ยังเคยออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ Bitcoin ก่อนที่จะลบบัญชี Twitter ของเขาออกว่า

“$ BTC เป็นฟองสบู่เก็งกำไรที่มีความเสี่ยงมากกว่าโอกาส แม้ว่าผู้สนับสนุนมันส่วนใหญ่จะพูดถูกว่าทำไมมันถึงมีส่วนเกี่ยวข้องในจุด ๆ นี้ของหน้าประวัติศาสตร์ได้”

แม้มุมมองของ Burry ต่อ SHIB จะเป็นลบ แต่ว่าเหรียญดังกล่าวก็ได้ไต่เต้าขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 15 ของโลก โดยในตอนนี้มันมีมูลค่าตลาดที่มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว

แม้เหรียญจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่นักวิจารณ์ก็ยังคงแห่กันเข้ามาฟาดเหรียญดังกล่าวด้วยคำพูดที่เจ็บแสบว่า

แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่ เว็บเทรด Bitpanda ก็เพิ่งจะลิสต์เหรียญดังกล่าวให้เทรดบนเว็บ

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Shiba Inu ให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงถึง 227.3% อ้างอิงจาก CoinGecko และจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม ราคาเหรียญมีมดังกล่าวกลับมาเพิ่มขึ้นสูงกว่า 85% หลังจาก “DOGEfather” หรือ Elon Musk ออกมาทวีต

นักวิเคราะห์ คริปโต Mr Whale และ Billy Markus ผู้ร่วมก่อตั้ง DOGE ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญดังกล่าวว่า

นักวิจารณ์มักพิจารณาว่านี่เป็นกลยุทธ์ “ปั่นราคาให้ขึ้นและเทขาย” และถือว่า SHIB เป็นสินทรัพย์ที่ “ไร้สาระ” และที่มีอุปทานมากมาย