ในขณะที่ยุคดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วธนาคารกลางและธนาคารเอกชนทั่วไปกำลังทดลองใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว คล่องตัว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) การเปลี่บนแปลงเหล่านี้มีแนวโน้มที่ดี
รายงานจาก Fintech ในอาเซียนปี 2021 โดย UOB Pwc Singapore และบริษัท crypto ของ Singapore Fintech Association (SFA) ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสถิติเหล่านี้บางส่วน การลงทุนในบริษัท Fintechเห็นได้อย่างทั่วถึงว่ามีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2564 ซึ่งมากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้น 424% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วกล่าวเพิ่มเติมได้ว่าการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและคริปโตก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ซึ่งมีการเติบโตขึ้น 6 สำหรับรุ่นก่อน และ 5 เท่าสำหรับรุ่นหลัง แม้ว่ากลุ่ม crypto จะแซงหน้าการให้กู้ยืมทางเลือก (แพลตฟอร์มการกู้ยืมแบบ peer-to-peer) จากสามอันดับแรกเป็นครั้งแรกในรอบหกปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์ เป็นผู้นำด้านการจัดหาเงินทุนที่เกี่ยวกับ Fintech เป็นอันดับต้น ๆ ในอาเซียนปีนี้คิดเป็น 44% ของจำนวนเงินทั้งหมดและอินโดนิเซียเป็นอันดับที่สองซึ่งมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเดียวกัน
CBDC ในก้าวต่อไป
เมื่อไปดูในส่วนสกุลเงินดิจิทัลเกือบ 9 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 3,000 คน มีมุมมองที่ดีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล พวกเขาได้ใช้สกุลเงินดิจิทัลในอนาคตแม้ว่าผู้ร่วมแบบสอบถามเพียง 14% เท่านั้นที่ใช้สกุลเงินดิจิทัล สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า crypto เหล่านี้ยังมีหนทางอีกยาวไกลในแง่ของการยอมรับแต่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เปิดรับที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ผู้ที่แสดงความชอบในแนวทางเดียวกันก็มีมากถึง 61%
ตามรายงานกล่าวว่า
“คนส่วนใหญ่ยินดีที่จะ ‘รอดู’ การได้รับการสนับสนุนโดยการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นรวมถึงการซื้อขาย crypto ที่ได้รับการยินยอมจากหน่วยงานที่กำกับดูแล”
อย่างไรก็ตามการศึกษาเหล่านี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพที่แท้จริงของ crypto เช่นเดียวกับชุมชนบล็อกเชน Tan Yinglan ผู้ก่อตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการที่ Insignia Ventures Partners ได้กล่าวย้ำถึงแงดีในลักษณะที่คล้ายคลึงกันเขาคิด
“พวกเราเห็นกฎระเบียบด้าน Fintech ในอาเซียนกำลังพัฒนาไปสู่การสร้าง sandbox และกรอบงานรอบ ๆ โครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นใหม่เช่นเทคโนโลยีกระจายอำนาจ (บล็อกเชน) เนื่องจากแพลตฟอร์มที่ใช้ crypto และสตาร์ทอัพบล็อกเชนได้รับเงินทุนเพิ่มขึ้นและเติบโตจากการได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในด้านการเงินแบบกระจายอำนาจ”
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ข้อมูลเชิงลึกที่คล้ายคลึงกันถูกเน้นไปที่การที่ ASEAN นั้นได้ทำการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับ CBDC เพื่อบูณาระบบการเงินของพวกเขาให้เข้าที่อย่างไรก็ตามประเทศต่าง ๆ จำนวนมากกำลังเจาะจงไปที่กลุ่มประเทศ ‘กำลังพัฒนา’