เครือข่าย Cardano ได้เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในตลอดช่วงปีที่ผ่านมาโดยสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือจำนวนของกระเป๋าเงิน ADA ที่เพิ่มมากขึ้นมากกกว่า 1,200% โดยเติบโตจากคริสมาสต์ปีที่แล้วที่ 190,000 กระเป๋าสู่ 2.5 ล้านกระเป๋าโดยอิงข้อมูลจากวันที่ 24 ธันวาคม 2021
ตัวขับเคลื่อนการเติบโตของกระเป๋าเงิน Cardano
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เครือข่ายประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเกิดจากการอัปเกรดหลายอย่างตลอดปี โดย ADA เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลกตามมูลค่าราคาตลาด โดยภาพรวมแล้วการอัปเกรดเครือข่ายได้ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้กับราคาและชุมชนของ ADA เป็นอย่างมาก โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นในปีที่ผ่านมาและได้ปรับฐานราคาขึ้นมากกว่า 870%
นอกจากนี้การเติบโตยังเกิดขึ้นหลังจากการก่อตั้งมูลนิธิเมื่อต้นปี 2564 โดยทำให้จำนวนกระเป๋าเงินใหม่และจำนวนผู้ใช้งานบนเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นนี้มีนัยสำคัญอย่างมากซึ่งอาจบ่งบอกว่าผู้ถือ ADA ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อยที่ถือโทเคนอื่นมาก่อนและต้องการที่จะถือครองโทเคนเพิ่มอีกจำนวนเล็กน้อยเพื่อมุ่งไปสู่ภาคการเงินแบบกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ การเปิดตัว Decentralized Exchange (DEX) บนบล็อกเชนของ Cardano ยังทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนจำนวนกระเป๋าเงินบนเครือข่ายให้พุ่งสูงขึ้นอีกด้วย โดย Cardano ได้ดึงดูดผู้ใช้งานจาก Ethereum เป็นจำนวนมากเนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าทำให้ ADA ถูกมองว่าเป็นทางเลือกแทน Ethereum หรือ “ETH killer”
ทั้งนี้การเปิดตัว smart contact บนเครือข่ายได้ทำให้ผู้ใช้งานมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ประสบความสำเร็จทางด้านโครงการและราคาเป็นอย่างมาก โดยจำนวน smart contact ที่อิงกับแพลตฟอร์ม Plutus มีมากถึง 888 สัญญาเข้าด้วยกัน
ราคาของ ADA
จำนวนกระเป๋าเงินอาจชี้ให้เห็นถึงโอกาสของ ADA สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นท่ามกลางการพัฒนาเครือข่ายใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่ ชุมชน crypto บน CoinMarketCap คาดว่า ADA อาจซื้อขายที่ราคาประมาณ 2.4 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ โดยในขณะนี้ได้ทำราคาอยู่ที่ 1.46 ดอลลาร์โดยเพิ่มมากขึ้นกว่า 18% ตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดเพิ่งประสบกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น โดยได้มีนักลงทุน ADA จำนวนหนึ่งหนีตายในตลาดตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
สิ่งนี้บ่งบอกได้ว่าในระยะสั้นนี้ เราอาจไม่ได้เห็นตลาดที่มีความหวือหวามากนัก หากแต่ในระยะยาว นักลงทุนนั้นควรที่จะต้องเฝ้าระมัดระวัง และรอดูต่อไป