<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

GameFi ถึงทางตันแล้วหรือยัง ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัจจุบันที่ NFT เริ่มเข้ามามีบทบาทคนเริ่มพูดถึงกันมากขึ้นจนนำเอาต่อยอดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างเช่นแวดวงศิลปะและที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กันก็คือ Gamefi หรือเราอาจจะพูดกันติดปากว่าเกมที่เล่นแล้วได้เงิน

เมื่อประมาณกลางปี 2021 กระแสการเล่นเกมแล้วได้เงินเริ่มเป็นที่แพร่หลาย ตอนแรกอาจจะเป็นแค่คนในแวดวงที่รู้จักแต่หลังจากนั้นก็ได้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ไม่สูงมากและสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว บางเกมอาจจะใช้เวลา 7 วันคืนทุนหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่โดยส่วนมากระยะการคืนทุนจะอยู่ที่ประมาณ 25-40 วัน ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจลงทุนแบบใหม่กันมากขึ้น ปัจจุบันมีหลายเกมที่เปิดตัวออกมาได้ น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกไว้วางใจและกล้าที่จะลงทุนมากขึ้น

ในช่วงปลายปี 2021 ถือเป็นช่วงขาขึ้นของ Gamefi อย่างแท้จริง หลายคนมองเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำกำไรจากวงการนี้อย่างยั่งยืนเพราะความเชื่อมั่นและมองเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อต้นปีที่ผ่านมาวงการ Gamefi กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า เนื่องจากราคาของเหรียญตกอย่างรวดเร็วจนทำให้หลายเกมต้องปิดตัวลง

สาเหตุที่เกมไปต่อไม่ได้

ราคา

เหตุผลการปิดตัวลงของแต่ละเกมนั้นแตกต่างกันแต่มักจะมีจุดเริ่มต้นคล้ายๆกัน ซึ่งนั่นก็คือราคาเหรียญที่ตกลงอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากก่อนที่เกมจะเปิดตัว ทีมผู้พัฒนาจะทำการระดมทุน (IDO) เพื่อเปิดขายเหรียญที่มีราคาถูกให้แก่นักลงทุน เมื่อมีนักลงทุนสนใจเยอะขึ้นราคาเหรียญก็จึงพุ่งขึ้นและลดลงตามกลไกตลาด

ความเป็นที่นิยม

เมื่อเกมได้รับการยอมรับ จนเกิดแรง FOMO กระแสกลัวการตกรถ จนทำนักลงทุนแห่มาลง ราคาเหรียญพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเมื่อกระแสเริ่มเบาลงราคาจะลดลงตามแรงซื้อของนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าน้อยลง รวมถึงการขายเหรียญอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนที่ลงทุนหน้าเก่า

กลุ่มสังคม

กลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเกม อาจจะเป็นพื้นที่สำหรับมือใหม่หรือเอาไว้คอยถามปัญหาต่างๆ แต่หลายครั้งที่นักลงทุนบางส่วนมองตัวเกมว่าเกมนั้นอาจปิดตัวลงในอนาคต จึงทำให้การแสดงความคิดเห็นแต่ละครั้งสร้างความหวาดกลัว (FUD) ให้แก่นักลงทุนที่กำลังจะเข้าจนทำให้ไม่กล้าเข้ามาลงทุน

เหรียญเฟ้อ

เมื่อนักลงทุนเยอะขึ้นเหรียญใน pool ก็มีน้อยลงไปด้วย เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ และเนื่องจากอัตราการเบิร์นเหรียญในเกมที่น้อย นักลงทุนจึงไม่อยากลงทุนซ้ำๆ ทำให้ไม่มีนักลงทุนหน้ามาเข้ามาเพิ่ม ประกอบกับวาฬในเกมที่มีการเทขายเหรียญเป็นจำนวนมาก จนทำให้มูลค่าของเหรียญตกลงจนเหรียญไม่มีมูลค่า

ผู้พัฒนาเกม

ขึ้นชื่อว่าเกมหลายคนคาดหวังว่าเกมจะสนุก แต่หลายเกมไม่ได้ตอบโจทย์ในส่วนนี้ ผู้เล่นหลายคนเมื่อได้ลองเล่นแล้วรู้สึกไม่สนุกและเบื่อ ผู้พัฒนาไม่อัพเดทหรืออัพเดท แต่ผลตอบรับออกมาไม่น่าพึงพอใจ ความสนุกลดลง จนกระแสตีกลับ หลายครั้งการที่ผู้พัฒนาไม่อัพเดทหรือหายไปจึงส่งผลให้อนาคตของเกมมืดมน

Rug Pull

Rug Pull หรือปรากฎการณ์ ‘ล้มทั้งยืน’ ศัพท์แสงวงการคริปโตเคอร์เรนซี มักเอาไว้เรียกเหตุการณ์ที่นักลงทุนถูกเจ้าของโปรเจคเทขายเหรียญใส่ก่อนเชิดเงินหนี หรือถูกเจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi โกงเงินปิดแพลตฟอร์มหนี

สรุป

อย่างไรก็ตาม Gamefi ก็เปรียบเสมือนเกมทั่วไป ระยะเวลาของเกมขึ้นอยู่กับความสนุกและความพึงพอใจของผู้เล่นเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่ามีเกมที่ดีที่ให้ความสนุกไปพร้อมๆกับการทำรายได้ ส่วน gamefi ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่อาจจะไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไปด้วยระยะเวลาของเกมที่สั้นเพราะการเงินในเกมหมุนเวียนไม่ทันและไม่มีเกมที่เป็นเกมจริงๆ หรือเป็นเกมไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ได้อีกแล้ว

สถานการณ์ของ Gamefi ในช่วงต้นปี 2022 ยังไม่สู้ดีนัก หลังจากเกมยอดนิยมอย่าง Cryptocars และเกมในเครือ ของ CryptoCity Metaverse ราคาร่วงลดลงอย่างมากทะลุทุกแนวรับ จนหลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะช่วงขาลงของตลาดคริปโตในช่วงต้นปี 2022 ผู้เล่นจำนวนมากเทขายเหรียญและเกมได้ปิดตัวลงในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนใน Gamefi ตัดสินใจลงทุนน้อยลง

นักวิเคราะห์จาก DappRadar ระบุว่า “NFTs แทบไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของสกุลเงินดิจิตอล จำนวนการซื้อขายยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง… เหตุผลที่ทำให้ NFTs และ GameFi ได้รับความนิยมนั้นมาจากความสนุกที่สามารถทำรายได้ได้” โดยจากวิเคราะห์ช่วงอายุของผู้ที่มีส่วนร่วม พบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้รับความสนใจอย่างมากจากประชากรในกลุ่ม Millenials สำหรับ NFTs และ Gamefi