<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

[บทสัมภาษณ์พิเศษ] “ทำไมต้องใช้แพลตฟอร์ม Defi Forward” กับคุณ ชานน จรัสสุทธิกุลผู้ก่อตั้ง Forward

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ยังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในหมู่นักลงทุน Defi  เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Defi น้องใหม่มาแรงอย่าง “Forward” ที่ทางโปรเจกต์ได้ออกมาประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การอัปเดตข่าวในครั้งนั้นทำให้นักลงทุน Defi รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แพลตฟอร์ม Defi ของ Forward นั้นมีดียังไง, น่าใช้หรือเปล่า, คุ้มค่าที่ลองหรือไม่ และเหรียญ Governance token ของแพลตฟอร์มอย่าง Forward token นั้นมีประโยชน์และกรณีการใช้งานอย่างไรบ้าง

ด้วยเหตุนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้กับนักลงทุน ในการถามคำถามสุดพิเศษกับทางโปรเจกต์ เพื่อคลายข้อสงสัยสำหรับคำถามที่ถูกพบบ่อย เมื่อพูดถึงโปรเจกต์ Forward 

บทสัมภาษณ์พิเศษกับผู้ก่อตั้ง Forward

โดยทาง Siam Blockchain ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ไปยังคุณชานน จรัสสุทธิกุล Co-Founder และ CEO ของ Forward (บีม) และดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน Co-Founder และ Advisor ของ Forward (เอ็ม) ถึงสิ่งที่นักลงทุนหลายคนสงสัยเกี่ยวกับ Forward และคำถามที่มักถูกพูดถึงอยู่บ่อย ๆ  

Siamblockchain : แพลตฟอร์ม Defi ของ Forward มีความแตกต่างไปจากแพลตฟอร์ม Defi อื่น ๆ อย่างไรบ้างครับ ?

คุณชานน จรัสสุทธิกุล Co-Founder และ CEO ของ Forward (บีม) : ในเฟสแรก Forward จะเปิดให้บริการสองอย่างหลักๆ ได้แก่ บริการ ฝาก-ยืม สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอเรนซี่ และ Derivatives Exchange ประเภท Futures ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากสภาวะตลาดที่ผันผวน 

โดย Forward ได้ออกแบบและพัฒนาโปรโตคอลที่มีชื่อว่า Automated Position Hedger ที่เป็นการผสานการทำงานร่วมกันจากทั้งบริการฝาก-ยืม สินทรัพย์ และการเทรด Futures บนบริการ Derivatives Exchange ด้วยโปรโตคอลนี้ทำให้ Forward สามารถจับคู่การเทรด และ match คำสั่งซื้อขายทุกออเดอร์ได้ในทันที อีกทั้งเรายังเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมถูกมาก (ประมาณ 0.03% ต่อธุรกรรม) 

โดยทุกครั้งที่มีการเปิดออเดอร์บนบริการ Derivatives Exchange โปรโตคอลของ Forward จะทำหน้าที่ยืมสินทรัพย์ที่ผู้ใช้นำมาฝากไว้จากบริการ ฝาก-ยืม สินทรัพย์ดิจิทัลภายในแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปให้ผู้ใช้บริการ Derivatives Exchange ใช้กู้ตอนเปิด Leverage 

ด้วยวิธีการนี้จะทำให้เกิดความต้องการในการยืมสินทรัพย์จริงในบริการฝาก-ยืม สินทรัพย์ อันเป็นผลดีต่อ Ecosystem ในอนาคตของ Forward อีกทั้งดอกเบี้ยที่ผู้ฝากสินทรัพย์ได้รับนั้น นอกจากดอกเบี้ยที่โปรโตคอลกำหนดให้แต่แรกแล้ว ยังมีส่วนเพิ่มจากค่าธรรมเนียมการเทรดที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มด้วย 

ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนในการฝากที่ผู้ใช้จะได้รับมีมูลค่ามากขึ้นตามปริมาณการเทรดของสินทรัพย์นั้นด้วย โดย Forward จะ Launch บน EVM based chain อาทิเช่น Ethereum และ BNB Smart Chain เป็นต้น

Siamblockchain : แพลตฟอร์มอนุพันธ์ Defi ของ Forward สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาให้กับผู้ใช้งานได้อย่างไรครับ ?

ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน Co-Founder และ Advisor ของ Forward (เอ็ม): เชื่อว่าหากเรารู้จัก Derivatives โดยเฉพาะประเภท Futures แล้ว เราคงพอจะทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ในการคาดเดาราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอเรนซี่ได้ 

โดยถ้าผู้ใช้เชื่อว่าราคาของสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะขึ้น ก็สามารถเปิดสถานะ Long เพื่อเพิ่มอำนาจในการซื้อได้ ในทำนองเดียวกัน ถ้าผู้ใช้เชื่อว่าราคาของสินทรัพย์มีแนวโน้มจะลง ก็สามารถเปิดสถานะ Short ได้เช่นกัน ถ้าราคาเป็นไปในทิศทางที่เราเปิดสถานะไว้ เราก็จะได้กำไรกลับมาหลังจากปิดสถานะ แต่ในทางตรงข้าม หากผิดทางผู้ใช้ก็มีโอกาสขาดทุนจากการเปิดสถานะนั้น

สัญญา Futures ยังสามารถนำมาใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา (Hedging) ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น :

สมมุติว่าผมมี 1 BTC อยู่ในพอร์ท และราคาของ BTC ผันผวนรุนแรงมากในตอนที่ผมถือ แต่ผมก็ไม่ได้มีความต้องการที่จะขายออก ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้อยากแบกรับความเสี่ยงของราคา BTC ที่ลดลงเรื่อยๆ สิ่งที่ผมสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงจากสภาวะนี้จากการเปิดสถานะ Short ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากราคาของ BTC ที่ลดลง เพราะได้กำไรจากการเปิดสถานะ Short แทนนั่นเอง และในอนาคต Forward จะเปิดฟีเจอร์ “One Click Hedging” ที่ผู้ใช้สามารถ Hedge สินทรัพย์ทั้งหมดที่มีได้โดยอัตโนมัติได้ด้วย

Siamblockchain : เหรียญ Forward Token ของแพลตฟอร์ม สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้างครับ และมีประโยชน์อย่างไรครับ ?

ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน Co-Founder และ Advisor ของ Forward (เอ็ม) : Forward เป็น Decentralized Derivatives Exchange ดังนั้นตัวเหรียญสามารถใช้งานได้หลากหลายมากครับไม่ว่าจะเป็น

  • ใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
  • เพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการฝากสินทรัพย์ (Lending)
  • ลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับการกู้ยืม (Borrowing)
  • ใช้สำหรับซื้อขาย NFT ที่สามารถนำมาใช้เพิ่มความหลากหลายของ User Trading Interface ได้ คล้ายกับการเปลี่ยนธีมของเว็บเบราว์เซอร์
  • ใช้ในการลิสต์เหรียญบน Forward Platform
  • ใช้ใน Ecosystem ของ Forward อื่นๆ ในอนาคต

อีกทั้ง Forward ยังแตกต่างกับ DeFi แพลตฟอร์มอื่นๆ เนื่องจากเรามีพาร์ทเนอร์ใน Real sector ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ธุจกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโรงแรมหลายสิบแห่งในภูมิภาคเอเชีย,  ธุรกิจ Media & Entertainment ซึ่งจะทำให้ Forward มี Ecosystem ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมเดิมและในโลกของ DeFi ด้วย

Siamblockchain : แพลตฟอร์ม Defi ของ Forward มีแผนที่จะเปิดตัวฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตไหมครับ ?

ชานน จรัสสุทธิกุล Co-Founder และ CEO ของ Forward (บีม)  : มีแน่นอนครับใน Roadmap ที่วางไว้หลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์มแล้ว ในอนาคตเราจะเพิ่มอีก 3 ฟีเจอร์ที่จะมาช่วยเพิ่มความหลากหลายในการลงทุน ได้แก่

  • NFT และสิทธิ์การเข้าถึง User Trading Interface ที่แตกต่าง: จะเป็นการใช้ลูกเล่นของ NFT ในการเสริมความแปลกใหม่ของ User Trading Interface ให้มีความหลากหลายมากขึ้น คล้ายการเปลี่ยนธีม
  • AI Reinvestment: ทางแพลตฟอร์ม Forward จะนำ AI เข้ามาช่วยในการบริหารสินทรัพย์ของผู้ใช้ที่นำมาฝากไว้กับแพลตฟอร์มสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดกลับไปให้ผู้ใช้ด้วยความเสี่ยงต่ำที่สุด
  • Decentralized Trading Competition: เป็นกิจกรรมเพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาร่วมสนุกแข่งขันกันภายในแพลตฟอร์ม ซึ่งของรางวัลในการแข่งขันจะเป็นอะไรนั้น ต้องรอติดตามดูจากประกาศทางการจากทาง Forward อีกครั้งครับ

สรุป

จากที่ทางสยามบล็อกเชนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ทางโปรเจกต์ ตัวนักเขียนเองมองว่า Forward เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Defi ที่น่าสนใจและชูจุดเด่นในเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะตลาดที่ผันผวน ให้กับนักลงทุน ซึ่งในส่วนตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มักมองข้าม 

สำหรับฟีเจอร์ “One Click Hedging” ที่ออกแบบช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุนสายฟิวเจอรส์ก็ถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ออกแบบมาได้ดีเอามาก ๆ ในช่วงที่ตลาดคริปโตมีผันผวนสูง และช่วยเป็นเกราะป้องกันให้กับนักลงทุนอีกชั้นหนึ่ง

ในขณะเดียวกันเหรียญ Forward Token ของแพลตฟอร์มก็มีอรรถประโยชน์และกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้ระบบนิเวศแห่งนี้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโร้ดแมพที่ทางโปรเจกต์วางไว้สำหรับอนาคต และทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ทางผู้เขียนมองว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถเติบโตได้อีกมากและกลายมาแพลตฟอร์มทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นเมื่อทำการลงทุนในโปรโตคอล Defi 

คำเตือน : การลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่นั้นมีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์ ผู้ลงทุนไม่ควรใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในการสูญเสียใด ๆ ทุกกรณี