CEO ของ Ripple ได้กล่าวว่า “ความเชื่อเชิงบวก” รอบ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ กำลังขัดขวางไม่ให้อุตสาหกรรมนี้เข้าถึงศักยภาพที่แท้จริงได้
ตามคำพูดของ Garlinghouse ที่ Paris Blockchain Week Summit เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้กล่าวว่า
“สิ่งรบกวนต่าง ๆ นั้นไม่ดีต่อความสามารถในการตัดสินใจของผม”
แม้ว่า CEO ของ Ripple จะบอกว่าเขาถือครอง Bitcoin และ Ethereum อยู่บ้างและเขาเชื่อว่าธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีจะเจริญรุ่งเรืองตามรายงานของ CNBC
“ผมเป็นเจ้าของ Bitcoin และ Ethereum ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าอุสาหกรรมนี้จะเติบโตต่อไป และเหรียญทุกเหรียญก็เช่นกัน”
ลัทธินิยม Bitcoin
เขาอ้างว่าอิทธิพลของอุสาหกรรม crypto ในกรุง Washington, D.C. แตกหักเนื่องจากลัทธินิยมของ Bitcoin
ปัจจุบันมี cryptocurrency หมุนเวียนมากกว่า 19,000 สกุลโดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.93 ล้านล้านดอลลาร์ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap โดยสกุลเงินดิจิทัลบางสกุลได้พัฒนาซึ่งติดตามราคาโดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งมีเหล่าผู้สนับสนุนเหล่าที่เรียกตัวเองว่า “maximalists”
ผู้สนับสนุนที่โดดเด่นหลายรายนั้นเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และ Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy ก็ต่างเป็น maximalists ที่เลือกสนับสนุนแต่ Bitcoin เพียงสกุลเงินเดียวเท่านั้น
ตามคำพูดของ Garlinghouse ลัทธินิยมสูงสุดดังกล่าวส่งผลให้อุตสาหกรรม crypto นั้นมี “การแตกหัก” อย่างเห็นได้ชัด
“หากมีสิ่งใดอย่างเช่นการโฆษณาชวนเชื่อที่ไร้สาระหรือการจ่ายเงินของ Ripple ที่พยายามแซงหน้าราคาของ Bitcoin คืนมา สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคำพูดไร้ค่าที่ดึงคนเข้าสู่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก”
คดีความ Ripple
Ripple มักเกี่ยวข้องกับ XRP ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่บริษัทใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
ปัจจุบันกำลังถูกฟ้องร้องโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในข้อหาขาย XRP มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์อย่างผิดกฎหมายในการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนโดยไม่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.
อย่างไรก็ตาม บริษัทอ้างว่า XRP ควรถูกมองว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลมากกว่าโทเคนความปลอดภัยซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณาคดี