Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Ethereum ได้แสดงความคิดเห็นอีกครั้งเกี่ยวกับต้นทุนการทำธุรกรรมที่น่าอับอายของ ETH
เมื่อวันอังคาร ผู้ก่อตั้ง Mythos Capital และพิธีกรร่วมของ Bankless podcast Ryan Sean Adams ให้ความเห็นว่าธุรกรรม ETH นั้นมีความคุ้มค่ามากขึ้น
ในการตอบสนองต่อทวีตนั้น Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum แย้งว่าค่าธรรมเนียมก๊าซ ETH จะต้องลดลงเพื่อประโยชน์ของระบบนิเวศ
ก่อนหน้านี้ Vitalik ยังกล่าวอีกว่าโซลูชัน Layer-2 และเทคโนโลยี Zero-knowledge (ZK Rollups) อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงเกินไปของ ETH
อันที่จริงเครือข่าย ETH เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในอุตสาหกรรม crypto โดยปัจจุบันETH เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าราคาตลาด ตามหลัง Bitcoin เท่านั้น
ทั้งนี้ DeFi ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ประสบปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูง พร้อมทั้งการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรม NFT ก็มีส่วนทำให้เกิดธุรกรรม ETH ที่มีราคาแพงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการในเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อส่งธุรกรรมบน Ethereum ให้ผู้ตรวจสอบหรือผู้ขุดหลายพันคนตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมในสิ่งที่เรียกว่าบล็อก ผู้ตรวจสอบความถูกต้องเหล่านี้จะได้รับค่าธรรมเนียมสำหรับความพยายามของพวกเขาในรูปแบบของ “gas”
ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะจ่ายค่า gas ที่สูงขึ้นเพื่อผลักดันการทำธุรกรรมให้เร็วขึ้น และนี่เป็นเทคนิคที่ใช้กันทั่วไปโดยคนงานเหมือง NFT แม้ว่าการทำธุรกรรมจะล้มเหลวแต่ผู้ใช้ก็ยังคงเลือกค่าธรรมเนียมก๊าซที่สูงขึ้น
ในงาน Metaverse NFT ล่าสุด โดย Yuga labs ผู้สร้าง BAYC ทำให้ความต้องการเครือข่าย ETH พุ่งสูงขึ้น และความเร่งรีบเพื่อรักษา NFT ทำให้เกิดสงครามค่า gas มหาศาลตามข้อมูลของ CoinMetrics แสดงให้เห็นว่ามีการใช้จ่ายมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ไปกับต้นทุนการทำธุรกรรมเพียงอย่างเดียว
นั่นยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้ใช้ยังสูญเสีย ETH ไปประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากธุรกรรมมากกว่า 10,000 รายการนั้นล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุน crypto ได้คาดการณ์ว่าการอัปเกรดตามแผนของ Ethereum ไปสู่กลไกแบบ proof-of-stake จะสามารถขจัดค่าธรรมเนียมที่สูงได้ มีรายงานว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์มีความคืบหน้าเกี่ยวกับงาน Merge ที่คาดการณ์ไว้มากแม้ว่าจะยังไม่ได้รับการยืนยันระยะเวลาที่แน่นอน