นาย Arthur Hayes อดีต CEO ของ Bitmex บอกว่า Ethereum จะพุ่งไปถึง 10,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้ แต่เขาก็ยังย้ำว่าตลาดอาจจะปั่นปวนในช่วงกลางปีนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการล่มสลายของ Terra โดยบอกว่าการล่มสลายของ Stablecoin มีผลมาจากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ FED และการขาดสภาพคล่อง
Ethereum จะพุ่งไปแตะ 10,000 ดอลลาร์ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน
นาย Arthur Hayes บอกว่าเขาจากการประเมินสามารถต่าง ๆ ของ Ethereum ทำให้เขามั่นใจว่า ETH จะสามารถพุ่งไปแตะ 10,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน ถ้าเกิดทางธนาคารกลางชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจจะทำให้ ETH และเหรียญอื่น ๆ กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้
ในเดือนเมษายนปี 2022 เขาได้บอกว่าการที่ Ethereum เปลี่ยนไปเป็นระบบ Proof-of-Stake (POS) จะทำให้ ETH เปรียบเสมือน “พันธบัตรสกุลเงิน หรือ Currency bond” ซึ่งจะต่างจาก Bitcoin ที่เขาบอกว่าเป็น “เงินบริสุทธิ์ หรือ Pure money”
นอกจากนี้เขายังบอกว่าการลงทุนใน ETH ดีกว่าการลงทุนในเหรียญอื่น ๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2022 จะทำให้ ETH นำหน้าเหรียญอื่น ๆ
Ethereum เหนือกว่า Bitcoin
นาย Arthur Hayes มีความเชื่อมั่นใน ETH เพราะว่าเป็นสิ่งที่ใช้ในการขับเคลื่อนระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเงินอย่างเดียวเหมือน Bitcoin
เขาได้แนะนำให้ผู้คนซื้อ Ether และออกพันธบัตร ETH เพราะว่าผู้ที่ซื้อ ETH จะถูกระบุว่าเป็นบริษัท DeFi หรือ Metaverse โดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น
การที่ ETH เปลี่ยนไปใช้ระบบ Proof-of-Stake (POS) ทำให้เขาชื่อว่า ETH จะสามารถขับเคลื่อนกองทุน ESG ได้ดีขึ้นและได้รับการยกเว้นจากปัญหาด้านกฏระเบียบ มีหลายคนผลักดันระบบ Proof-of-Stake เพราะเป็นระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับระบบ Proof-of-Work (POW)
เขาบอกว่าการพุ่งของราคา Ethereum อาจจะไม่เกิดจึ้นในเร็ว ๆ นี้เนื่องจากสภาวะตลาดที่กำลังผันผวน โดยความหวังเดียวที่เรามีคือการที่ FED จะลดการกดดันต่อตลาด Cryptocurrency
แม้ว่าจะมีความผันผวนในตลาดคริปโต แต่เขาก็เชื่อว่า ETH จะสามารถแตะ 10,000 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นปี 2022 นี้