<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

6 นิสัยที่สามารถเปลี่ยนให้คุณกลายเป็น ‘นักเทรดเงินล้าน’ ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เศรษฐีหลายคนเริ่มต้นเทรดสินทรัพย์ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาตระหนักถึงความจำเป็นในการเรียนรู้ทักษะการเทรดตั้งแต่เนิ่น ๆ และตั้งใจศึกษาอย่างหนักเพื่อพัฒนาทักษะเหล่านั้น จนในที่สุดพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ และสามารถกลายเป็นเศรษฐีด้วยสินทรัพย์ที่พวกเขารัก โดยในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชนจะพาทุกคนมาดูไปพร้อมกันว่านิสัยแบบไหนบ้างที่สามารถเปลี่ยนให้นักเทรดกลายเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย

1. เริ่มต้นให้ไว

การเป็นนักเทรดตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป เพราะยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไร เงินของเราก็ยิ่งมีเวลาทำกำไรมากขึ้นเท่านั้น หมายความว่าถึงแม้เราจะลงทุนเพียงเล็กน้อยในแต่ละเดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินเหล่านั้นก็อาจสามารถเติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากลงทุนด้วยเงิน 100 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 7% เราจะมีเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์หลังจากเวลาผ่านไป 20 ปี

2. เรียนรู้พื้นฐาน

ก่อนจะเริ่มเทรด สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้พื้นฐานของตลาดการเงิน และทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมไปถึงศึกษาการวิธีอ่านกราฟและวิธีการจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของเรา โดยปัจจุบันนี้มีแหล่งข้อมูลมากมายที่น่าเชื่อถือและเข้าถึงได้ง่าย เช่น หนังสือ หลักสูตรออนไลน์ และยูทูป

3. ฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลอง

เมื่อมีความเข้าใจในพื้นฐานการเทรดแล้ว การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองก่อนเริ่มเทรดด้วยเงินจริงก็ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถทดสอบกลยุทธ์ต่าง ๆ และเรียนรู้จากความผิดพลาดได้โดยไม่ต้องนำเงินจริงไปเสี่ยง

4. อดทน

การเทรดไม่ใช่วิธีรวยทางลัด เพราะการเทรดให้ประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลา ใช้ความพยายาม และต้องมีวินัยในการเทรด ดังนั้นจึงไม่ควรโฟกัสไปที่การทำเงินก้อนโตในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน เพราะการอดทนและการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะของตัวเราเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้นักเทรดกลายเป็นเศรษฐี

5. จัดการความเสี่ยง

สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่ต้องจำไว้เมื่อทำการเทรด คือ การบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเราเอง เพราะถึงแม้การเสี่ยงเงินเพียงเล็กน้อยในแต่ละครั้งที่เทรดจะไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพอร์ต แต่ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหนัก สถานการณ์ก็อาจแตกต่างจากปกติอย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้ ซึ่งกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดีนั้นจะสามารถช่วยไม่ให้เราพอร์ตแตกโดยไม่รู้ตัว

6. ไม่ยอมแพ้

แม้แต่นักเทรดผู้เก่งกาจที่หลายคนยกย่องให้เป็นตำนานอย่าง Kristjan Kullamägi ก็ยังเคยพ่ายแพ้ให้กับตลาดครั้งแล้วครั้งเล่า จนถูกคนอื่น ๆ ตราหน้าว่า “ขี้แพ้” เขาดิ้นรนอย่างสิ้นหวังในทุก ๆ วัน กว่าจะมีหุ้นรวมมูลค่านับสิบล้านดอลลาร์ในพอร์ตอย่างที่ทุกคนเห็นในวันนี้ ดังนั้นการสูญเสียเงินในตลาดจึงถือเป็นเรื่องที่เศรษฐีนักเทรดต้องประสบพบเจอเป็นธรรมดา สิ่งสำคัญคือเราสามารถเปลี่ยนให้ความสูญเสียเป็นการเรียนรู้ได้มากน้อยแค่ไหน

นอกจากนิสัย 6 ด้านนี้แล้ว ยังมีอีก 3 – 4 อย่างที่สามารถลงมือทำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น

  • หาที่ปรึกษา: ที่ปรึกษาระดับมืออาชีพสามารถให้คำแนะนำและการสนับสนุนในขณะที่เราเรียนรู้ทักษะการเทรด นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปได้อีกด้วย
  • เข้าร่วมชุมชนนักเทรด: มีชุมชนนักเทรดมากมายบนโลกออนไลน์ที่ช่วยให้สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น ๆ ได้
  • ติดตามข่าวสาร: ตลาดเป็นสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการติดตามข่าวสารล่าสุดอยู่เสมอจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เรามีข้อมูลมากเพียงพอสำหรับการตัดสินใจในการเทรด
  • อย่าเทรดโดยใช้อารมณ์: ปฏิเสธไม่ได้ว่าอารมณ์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักเทรดหลายคนหมดเนื้อหมดตัวมาแล้ว ดังนั้นการเทรดอย่างมีเหตุผลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรตระหนักถึงอยู่เสมอ

ถ้าหากปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ และทุ่มเทเวลาไปกับการพัฒนาทักษะของตนเองอย่างสม่ำเสมอ การเป็นนักเทรดเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อยก็อาจไม่ได้เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีการรับประกันความสำเร็จ เพราะการเทรดมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจทำให้เราสูญเสียเงินได้ ดังนั้นนักเทรดจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการเทรด และการบริหารจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตนเองอยู่เสมอ

บทความนี้จัดทำขึ้นโดยใช้ข้อมูลจาก Bard ซึ่งเป็น Generative AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากทีมพัฒนาของบริษัท Google คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้