<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุน NFT ‘ลิงขี้เบื่อ’ ฟ้องมาดอนนาและจัสติน บีเบอร์เรียกค่าเสียหายกว่า 3,500 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คอลเลกชันงานศิลปะ NFT “ลิงขี้เบื่อ” หรือ  Bored Ape ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกประมูลขายด้วยราคาสูงลิ่วจนน่าตกใจ แต่ในตอนนี้ราคากลับร่วงดิ่งอย่างรวดเร็ว จากหลักล้านดอลลาร์เหลือเพียงที่ 4.4 หมื่นดอลลาร์เท่านั้น

ดังนั้นนักลงทุน NFT จึงเริ่มรู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมูลค่าของ NFT ที่ลดลงอย่างมหาศาล และตัดสินใจฟ้องอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังถึง 30 คน รวมถึง Madonna, Justin Bieber, Paris Hilton ในข้อหาส่งเสริม ชักจูง บงการ ให้ผู้คนซื้อศิลปะ NFT โดยปิดบังความสัมพันธ์กับ Yuga Labs เจ้าของผลงาน NFT ดังกล่าว

โดยผู้ซื้อรายหนึ่งได้ซื้อ NFT ลิงขี้เบื่อไปมากกว่า 100 รายการ มูลค่าเทียบเท่ากับ 24 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายน ปี 2021

นอกจากนี้ ผู้ซื้อบางรายยังได้ยื่นฟ้อง Sotheby’s auction house บริษัทจัดการประมูลผลงานภาพศิลปะสัญชาติอังกฤษ จากการที่นาย Max Moore หนึ่งในพนักงานของบริษัทที่ได้กล่าวอ้างความเท็จบนโซเชียลมีเดียว่า NFT ลิงขี้เบื่อมีผู้ซื้อที่จ่ายด้วยเงินเฟียตรวมอยู่ด้วย ในขณะที่ความเป็นจริงแล้วผู้ซื้อรายนี้คือ FTX เว็บเทรดที่ล่มสลายไปแล้ว ดังนั้นการกล่าวอ้างเช่นนี้ทำให้ดูเหมือนว่างาน NFT นี้ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ซื้อกระแสหลักที่ใช้เงินเฟียต 

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ Scott+Scott ตัวแทนของ Sotheby ออกมากล่าวให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ตราประทับการอนุมัติของ Sotheby มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการขายคอลเลกชัน NFT ที่เป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ”เป็นเรื่องโชคร้ายที่การโฆษณาเกินจริงของ Sotheby กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ใหญ่ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงนักลงทุน ”

จากข้อมูลของบริษัทระบุว่า การที่เหล่าคนดังสนับสนุนงานศิลปะดังกล่าวนี้ส่งผลให้ราคาโทเค็นของ Bored Apes สูงเกินจริง และสร้างความสูญเสียทางการเงินเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่านั้นในหมู่นักลงทุนหลายพันคนที่ซื้อ NFT ดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน Sotheby’s โต้กลับข้อกล่าวนีว่า”ข้อกล่าวหาในคดีนี้ไม่มีมูลความจริง และ Sotheby’s ก็พร้อมที่จะปกป้องตัวเองอย่างจริงจัง”

เลือกทำอะไร ก็ต้องรับผลจากสิ่งนั้น

อาจเป็นเพราะสหรัฐฯอเมริกาเป็นประเทศที่มีอัตราการฟ้องร้องคดีต่าง ๆ สูงมาก ทำให้คดีเช่นนี้ก็ถูกปฏิบัติอย่างจริงจังเช่นกัน 

กลุ่มผู้คลั่งไคล้ NFT เชื่ออย่างไร้เหตุผลว่างานศิลปะ NFT ที่เป็นภาพดิจัทัลจะทำเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ให้กับพวกได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผชิญกับการสูญเสียเงินมหาศาล จนต้องฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินที่พวกเขาสูญเสียกับงานศิลปะนี้คืน

บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังเป็นบทเรียนเดิม ๆ แต่กระนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าก็ยังมีคนที่พลาดในเรื่องนี้อยู่ ดั่งคำที่ว่า หากสิ่งใดที่ดูดีมากเกินจะเป็นจริงได้ นั่นหมายถึงสิ่งนั้นไม่ใช่ความจริง

ที่มา: Michael Petraeus