<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หนุ่มวัย 22 ปี สูญ Crypto รวมมูลค่า 2.8 ล้านบาท หลังลงทุนด้วย “เงินที่ไม่จำเป็นต้องมี”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

พ่อกับแม่ของ Ethan Nguonly ได้เตรียมสิ่งต่าง ๆ เพื่อความมั่นคงทางการเงินไว้ให้เขามากมาย เขามีทั้งบัญชีลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ พอร์ตการลงทุนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยโบรกเกอร์ รวมมูลค่าเกือบ 135,000 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 4.8 ล้านบาท พร้อมกับบ้านอีก 2 หลังที่จะตกเป็นของเขาในอนาคต ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างถูกเตรียมมาเพื่อ Ethan ก่อนที่เขาจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นด้วยซ้ำ

เมื่อเวลาผ่านไป Ethan วิศวกรซอฟต์แวร์วัย 22 ปี ก็ได้เริ่มลงทุนในตลาด Crypto ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม Ethan กลับตอบแทนพวกเขาด้วยการทำสิ่งที่เรียกว่าความผิดพลาดทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุด

ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2021 ถึงมิถุนายน 2022 Ethan กล่าวว่าเขาขาดทุนประมาณ 80,000 ดอลลาร์จากการลงทุนใน Crypto ซึ่งเงินที่สูญเสียไปนั้นยังรวมถึงเงินลงทุน 30,000 ดอลลาร์ และกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงอีกประมาณ 50,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเขาลงทุนด้วยเงินทุนที่ยืมมาเพื่อซื้อสินทรัพย์ หรือที่เรียกว่า “Margin”

Ethan กล่าวว่าเขาลงทุนใน Bitcoin และ Ethereum ประมาณ 40,000 ดอลลาร์ บวกกับ Altcoin อื่น ๆ อีก 200 – 300 ดอลลาร์ เช่น Shiba Inu และ Dogecoin แต่เมื่อราคาของ Bitcoin ร่วงลง เขาจึงตัดสินใจช้อนซื้อเพิ่มอีกประมาณ 15,000 ดอลลาร์ด้วยการใช้ Margin

ไม่นานนัก Ethan กล่าวว่าพอร์ตของเขามีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 ดอลลาร์ เนื่องจากราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) แต่ในช่วงท้ายของปี 2021 ตลาด Crypto ก็กลับตัวเป็นขาลง จากนั้นราคาของ Bitcoin ก็ได้ร่วงลงไปกว่า 70% ในปี 2022

“ผมกำลังลงทุนด้วยเงินที่ผมไม่จำเป็นต้องมี” Ethan กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC Make It “พอตลาด Crypto พลิกกลับ ความสูญเสียของผมก็ขยายวงกว้างขึ้น”

บาดแผลจากการใช้ Margin

Margin คือเงินทุนที่กู้ยืมมาเพื่อซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งในบริบทของการเงิน Margin จะช่วยเพิ่มอำนาจการซื้อของนักลงทุน ทำให้สามารถซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินลงทุนที่แท้จริงได้ ดังนั้นนักลงทุนที่ใช้ Margin จึงอาจสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การใช้ Margin ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เพราะถ้าหากราคาสินทรัพย์ปรับตัวลง นักลงทุนอาจสูญเสียเงินมากกว่าเงินลงทุนที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนใช้ Margin 50% เพื่อซื้อหุ้นมูลค่า 100,000 บาท และราคาหุ้นปรับตัวลง 50% นักลงทุนจะสูญเสียเงินทั้งหมด 100,000 บาท ซึ่งรวมถึงเงินลงทุนที่แท้จริง 50,000 บาท และเงินกู้ยืม 50,000 บาท

ในขณะที่ราคา Bitcoin ปรับตัวลงต่ำท่ามกลางตลาดหมีครั้งใหญ่ Ethan ต้องเผชิญกับการเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin call) ซึ่งหมายความว่าเขาจะต้องขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่กำลังถืออยู่เพื่อชดเชยเงินกู้ยืม

บทสรุปของเรื่องราว

เมื่อมองย้อนกลับไป Ethan รู้สึกเสียใจ และคิดว่าเขาไม่ควรเข้ามาลงทุนใน Crypto ตั้งแต่แรก เขายอมรับว่าเขาอาจจะมองโลกในแง่ดีเกินไปหลังจากเห็นตลาด Crypto เข้าสู่โหมดกระทิงในปี 2021

ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ข้อผิดพลาดที่สำคัญที่สุดของ Ethan นั้นไม่ใช่การเข้ามาลงทุนในตลาด Crypto ด้วยซ้ำ หากแต่เป็นการทุ่มเงินมากจนเกินตัว โดยที่เงินก้อนโตก้อนนั้นไม่ใช่เงินของตัวเขาเอง

ยังคงเชื่อมั่นใน Crypto

ปัจจุบันนี้ Ethan ยังคงลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลด้วยเงินบางส่วนของตัวเอง และยังคงถือ Bitcoin และ Ethereum ไว้เช่นเดิม แต่เขาเลือกที่จะไม่ถือ Altcoin อื่น ๆ ที่มีความผันผวนมากกว่า

“ผมยังคงเชื่อใน Crypto” เขากล่าว “แต่คิดว่า Altcoin จำนวนมากพวกนี้มีความเสี่ยงมาก และผมก็หลีกเลี่ยงการทุ่มเงินให้กับพวกมัน”

“ลงทุนเฉพาะเงินที่คุณมีเท่านั้น และอย่าไปลงทุนในการลงทุนแบบเก็งกำไรมากนัก”

Ethan กล่าวถึงบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดมูลค่า 80,000 ดอลลาร์ พร้อมกล่าวเสริมว่าเขายังคงพร้อมรับความเสี่ยงทางการเงินอยู่บ้าง แต่ขณะนี้เขากำลังมุ่งเน้นการลงทุนที่มีการเก็งกำไรน้อยกว่า Crypto เช่น กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange-Traded Fund – ETF) และการซื้ออสังหาริมทรัพย์

ที่มา: cnbc