การลงทุนคริปโต เป็นหนึ่งในทางเลือกในการหารายได้เพิ่มเติมจากงานประจำ หรือบางคนคาดหวังจะเกษียณได้จากการลงทุนนี้เพื่อสร้างความร่ำรวย การที่นักลงทุนมากมายเปิดเผยความสำเร็จของพวกเขาจากการลงทุนในคริปโต ยิ่งทำให้คนทั่วไปมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่านักลงทุนในตลาดทุกรายจะประสบความสำเร็จได้รับเงินกลับมา เพราะก็มีนักลงทุนหลายรายที่ล้มเหลวและขาดทุนจนหมดตัว
หนึ่งในนั้นคือคุณอุทัย นักธุรกิจและนักลงทุนคริปโตที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์การเทรดคริปโตจาก Bitcoin, BNB,ADA ,ETH และการซื้อขายแบบ Future ในรายการ “คลินิกชาวสวน” จากช่องยูทูป SRISIAM ที่ได้เข้ามาเปิดเผยเรื่องราวการเทรดของเขา จากพอร์ตที่เคยมีเงินลงทุนถึง 10 ล้านบาท แต่กลับเทรดจนเหลือ “ศูนย์”
คุณอุทัยเปิดเผยว่า เขาเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโต เพราะอยากลงทุนอะไรซักอย่างเพื่อหวังผลกำไร เนื่องจากเขาคิดว่าตนเองอายุเยอะแล้ว เหนื่อยจากการทำงานมากพอแล้ว เริ่มมองถึงอนาคตตนเอง จึงมองหาการลงทุน โดยเริ่มจากการเทรด Bitcoin ในแพลตฟอร์ม Bitkub เมื่อประมาณปี 2020 แบบที่ไม่ได้มีความรู้หรือไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม แล้วตนได้กำไร จึงเริ่มเทรดในเหรียญอื่นๆต่อได้แก่เหรียญ BNB,ADA,MANA ในตอนนั้นเทรดแล้วได้กำไร จึงยังคงถือเหรียญเหล่านี้อยู่ จนกระทั่ง วันที่ 19 พฤษภาคม ปี 2020 พอร์ตลงทุนของเขามีติดลบบ้าง ขาดทุนบ้าง เริ่มติดดอยบ้าง
หลังจากนั้นต้นปี 2021 ในเดือนพฤษภาคม ราคาเหรียญลดลงอย่างแรง แทนที่เขาจะขายเหรียญออกไป เขากลับคิดว่าควรซื้อเหรียญเพิ่มอีกเพราะจะได้เหรียญเพิ่มขึ้นในราคาที่ถูกลง แต่ก็ทำให้เขาขาดทุนเป็นจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจเริ่มขายเหรียญออก
คุณอุทัยยอมรับว่าในตอนนั้นมีความกังวลเรื่องราคาที่ลดลงและมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จากเงินลงทุน 1 ล้านบาท เหลือเงินอยู่ 3-4 แสนบาท จึงหาวิธีเอาเงินลงทุนที่เสียไปคืนกลับมา เริ่มไปเทรด Future ในแพลตฟอร์ม Binance โดยเข้าไปด้วยเงินลงทุน 3 ล้านบาท เป็นเงินที่เหลือจากการเทรดในแพลตฟอร์ม Bitkub
หลังจากนั้นไปเรียนรู้วิธี staking 2.0 กับเหรียญ ADA และเข้าไปเทรด Future บนเว็บเทรด Binance โดยลงทุนเงินไปเป็นมูลค่า 3 แสนบาท ประกอบกับในช่วงนั้นมีข่าว Elon Musk เทขาย Bitcoin คุณอุทัยยอมรับว่า ไม่ได้ศึกษาเรื่องกราฟ ไม่มีความรู้เทคนิค ลงทุนไปแบบเดาล้วนๆ เพราะคิดว่าตนเองมีเงินลงทุนเยอะ หลังจากข่าวนั้นทำให้เงินลงทุนของเขาติดลบทุกเหรียญจนเงินใกล้หมด เลยเอาเงินในส่วนที่เคย staking ไว้มาใช้แทน
ในตลาด Binance Future เขาเลือกเทรด Isolated Margin โดยลงทุนไปทีพันดอลลาร์ แล้วพอร์ตแตก 30-40 ครั้ง เป็นแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ จนทำให้เงินของเขาหายไปทีละพันดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ครั้งละ 3 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตามคุณอุทัยยังไม่ยอมแพ้ จึงหันเลือกเทรดแบบ Cross Margin เพื่อถือยาว จากติดลบ 120% ขึ้นมาติดลบ 200% เขาเลือกที่จะไม่ Cut ปล่อยทิ้งไว้ จนกระทั่งติดลบมหาศาลจึงต้องขายเหรียญคริปโตใน sport มาเป็น usdt
ในที่สุดจากการที่ spot ก็ไม่มีเงิน เงินจากการ staking ก็ไม่มี ราคาเหรียญก็เริ่มลดลงจนถึงจุดต่ำสุด ทำให้เงินลงทุนลดลง จนสุดท้ายพอร์ตของเขาก็ลดลงจนเหลือ “ศูนย์” หรือสูญเสียเงินไปเป็นมูลค่าถึงสิบล้านบาท
เรื่องนี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ของเหล่านักลงทุนว่า การลงทุนเทรดสินทรัพย์ใดก็ตามควรทำอย่างรอบคอบมีสติ และการทำธุรกิจกับการลงทุนมันเป็นคนละเรื่องกัน ไม่สามารถนำหลักการเดียวกันมาใช้ได้ แม้กระทั่งหลักคิดในเรื่องการไม่ยอมแพ้ เพราะมันใช้ได้แค่กับบางอย่างเท่านั้น เนื่องจากการลงทุนเป็นเรื่องของราคาตลาด ไม่สามารถยึดถือตามความเชื่อมั่นของตนเองได้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนด้วยสินทรัพย์ที่สามารถสูญเสียได้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินก้อนใหญ่เกินกว่าจะหากลับคืนมาได้