การเปิดตัวกองทุน ETF ส่งผลให้ Ethereum (ETH) กลายเป็นประเด็นร้อนที่ชุมชนคริปโตทั่วโลกต่างพูดคุยกันอย่างหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ถึงแม้จะไม่มีดราม่าหรือข่าวใหญ่ใด ๆ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ราคาของ ETH ที่ปรับตัวลดลงนั้นยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะพาทุกคนมาสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Ethereum แล้วมาดูกันว่าสถานการณ์ของโปรเจกต์นี้มีแนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อไป
ETH / BTC
จากกราฟด้านล่าง จะเห็นว่าค่าของ ETH เทียบกับ BTC มีแนวโน้มลดลงในช่วงเวลาที่แสดงอยู่ ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าว อาจหมายความว่านักลงทุนนิยมซื้อ BTC มากกว่า ETH หรือมีการถอนเงินออกจาก ETH เข้าไปยัง BTC
ถ้าหากตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของค่า ETH เทียบกับ BTC ตั้งแต่ช่วง bullrun ที่ผ่านมา จะเห็นจุดที่นักลงทุนควรพิจารณาทั้งหมด 5 จุด ดังนี้:
- ETH hit a first ATH over $4000 of $4380: ณ จุดนี้ จะเห็นว่าราคา Ethereum แตะจุด ATH เป็นครั้งแรกที่ระดับสูงกว่า 4,000 ดอลลาร์ และค่าสูงสุดที่จริงคือ 4,380 ดอลลาร์
- ETH/BTC highest level of the bullrun: ที่จุดนี้ อัตราการแลกเปลี่ยนระหว่าง ETH และ BTC อยู่ในระดับสูงสุดของช่วง bullrun แม้ว่าตลาดคริปโตจะเริ่มชะลอตัวหลังจากจุดสูงสุดในปี 2021 แต่ราคา ETH ก็ลดลงน้อยกว่า BTC
- The week before “ETH 2.0” the shift from “Proof of Work” to “Proof of Stake”: หนึ่งสัปดาห์ก่อนการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานของ Ethereum จาก “Proof of Work” ไปสู่ “Proof of Stake” จะเห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นของค่า ETH เมื่อเทียบกับ BTC
- Over 12 months of decline. Regulations, low demand during BTC halving & spot ETF narrative cooled down the ratio after the 2.0 peak: ที่จุดนี้ จะเห็นว่าหลังจากจุดสูงสุดของ ETH 2.0 ค่า ETH/BTC กลับลดลงเป็นเวลานานกว่า 12 เดือน เนื่องจากมีข้อบังคับทางกฎหมาย, ความต้องการซื้อต่ำในระหว่างการ halving ของ BTC และข่าวเกี่ยวกับ spot ETF ที่ส่งผลต่อนักลงทุน
- Lowest level since bullrun: ณ จุดนี้ จะเห็นว่าค่า ETH/BTC ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดหลังจาก bullrun โดยเป็นผลมาจากการล่มสลายของ LUNA ซึ่งส่งผลให้มีการเทขาย ETH อย่างรุนแรง
เปอร์เซ็นต์ Volume Dominance ของ BTC และ ETH
จากกราฟ จะเห็นว่าถึงแม้ปริมาณการซื้อขายจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากทั้งก่อนและหลังการอัปเกรด the merge แต่ปริมาณการซื้อขายก็ลดลงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าปริมาณการซื้อขายอาจย้ายไปที่ตลาดสำหรับเหรียญ Altcoin ตัวอื่น ๆ
Open interest dominance – การเทรด ETH ในตลาด Crypto มีความโดดเด่นแค่ไหน
เมื่อเทียบกับ BTC:
เมื่อเทียบกับตลาด Crypto โดยไม่นับรวม BTC:
การเทรดในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
จากกราฟ จะเห็นว่าอัตรา open interest ของ ETH ลดลงอย่างน่าประหลาดใจ และยังคงอยู่ในระดับต่ำนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 ของปีนี้ โดย OI ในปัจจุบันนั้นลดลงต่ำจนใกล้กับช่วงหลัง FTX ล่มสลาย นอกจากนี้ตัวเลขการล้างพอร์ตก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน ซึ่งน่าจะเกิดจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลง แต่ยังรวมถึงการลดอัตราเลอเรอเรจด้วย
On chain Data – ใครได้กำไร?
ที่ราคา Ethereum ปัจจุบันที่ $1577 มีประมาณ 49% ของกระเป๋าเงินที่ซื้อมาในราคาเฉลี่ยสูงกว่าราคาปัจจุบัน ในขณะที่ 4% ของกระเป๋าเงินซื้อมาในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน และมีประมาณ 48% ของที่อยู่ซื้อมาในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
ข้อมูลปริมาณการซื้อขายและราคา:
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลงนับตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ในตลาด Crypto ก็มีแนวโน้มลดลงด้วย ดังนั้นการลดลงจึงเป็นกระแสทั่วไปของตลาด ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงเฉพาะกับ Ethereum อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา จะเห็นว่าปริมาณการซื้อขายมีการตอบสนองในช่วงที่นักลงทุนเทขาย ก่อนจะมีการพุ่งขึ้นในภายหลัง
สัญญา future ในปัจจุบันที่มี open interest สูงสุด:
ข้อมูลการล้างพอร์ต:
ก่อน:
– สาย Short : สีน้ำเงินอมเขียว (50x leverage), สีน้ำเงิน (25x leverage), สีเขียวอ่อน (100x leverage)
– สาย Long : สีแดง (50x leverage), สีชมพู (25x leverage), สีส้ม (100x leverage)
หลัง:
สิ่งที่ทำให้การเทขายเกิดขึ้นในช่วงนี้:
ในช่วงที่ราคา ETH ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ETH ได้ค้นพบแนวรับสนับสนุนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากการเทขายครั้งแรก มีการเปิดพอร์ตที่มีเลเวอเรจสูงจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ open interest สูงขึ้นกว่าก่อนการเทขาย การลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ และได้ล้างพอร์ตเหล่านี้จำนวนมากภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้ความผันผวนเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ไปในทิศทางขาลง
ข้อมูลสัญญา Futures ของ ETH รายไตรมาส:
บทสรุป:
ข้อมูลนี้อิงตามกราฟทั้งหมด รวมทั้งอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่ขับเคลื่อนราคาของสินทรัพย์ โดยจากข้อมูลทั้งหมด ไม่มีความผิดปกติที่มองเห็นได้อย่างมีนัยสำคัญว่า ETH “ไม่มีใครสนใจอีกต่อไป” โดยข้อมูลส่วนใหญ่ที่แสดงข้างต้นเป็นเพียงสภาพคล่องในปัจจุบันเท่านั้น
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจะสามารถมองได้ในแง่ลบ แต่สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลจากสภาวะซบเซาของในตลาดโลก ทั้งนี้ยิ่งความต้องการและสภาพคล่องตลาดลดลง ความผันผวนจะเพิ่มขึ้น จนทำให้ราคาพุ่งลงและพุ่งขึ้นตามข่าวที่ดี
ท้ายสุดแล้ว Ethereum ก็เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ในวันพรุ่งนี้ราคา ETH อาจต่ำกว่า 1500 ดอลลาร์ตามข่าวร้าย แต่ราคาก็สามารถสูงกว่า 1,650 ดอลลาร์ตามข่าวดี และให้กำไรแก่พวกเราได้ ดังนั้นแม้ว่าค่าต่าง ๆ ตามข้อมูลบนเครือข่ายอาจจะลดลง แต่ก็ยังเป็นเพียงเสียงระยะสั้น และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเดือนถัดไป อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกราฟทั้งหมดล้วนไม่แสดงเครื่องหมายอย่างชัดเจนว่าแฟน ๆ ของ ETH ปล่อยมือสินทรัพย์นี้ไปแล้ว
ที่มา: reddit