<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 วายร้ายคริปโตตัวฉกาจ ทำวงการสั่นสะเทือนในปี 2023

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปีนี้ได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเหล่าวายร้ายในโลกคริปโตที่ได้ทำวิถีทาง เพื่อทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเสื่อมเสียชื่อเสียง

เหล่าวายร้ายคริปโตเหล่านี้ถือเป็นเนื้อร้ายที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเทคโนโลยี blockchain ไม่ว่าจะเป็นการถูกฟ้องร้องในชั้นศาล ไปจนถึงการถูกกล่าววิพากษ์วิจารณ์บนสื่อโซเชียล 

ซึ่งนี่คือ 5 อันดับวายในตลาดคริปโต เนื่องจากการกระทำและพฤติกรรมของพวกเขาได้สร้างความหายนะให้กับตลาดและทำให้ตลาดคริปโตต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่เลวร้าย

1. Gary Gensler

Gary Gensler ประธาน SEC คือวายร้าย เหมือน Last Boss สำหรับชุมชนคริปโต และเป็นระยะเวลาหลายปีแล้วที่ Gensler ได้ยื่นฟ้องคดีต่อโปรเจกต์คริปโตต่าง ๆ 

ในปีนี้ Gensler และหน่วยงานกำกับดูแลของเขาใน D.C. ได้พยายามที่จะบ่อนทำลายอุตสาหกรรมคริปโต  เห็นได้จากการเป็นผู้นำการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดำเนินมายาวนานกับ Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple และ Ripple Lab ด้วยอำนาจกำกับดูแลที่เข้มงวด

ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนได้เรียกร้องให้ปลด Gensler ออกจากตำแหน่งประธาน SEC โดยกล่าวว่า เขาล้มเหลวในการปกป้องนักลงทุนจากอันตรายในตลาดคริปโตจาก 2 เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองครั้งในประวัติศาสตร์ทั้ง FTX และ Terra Luna

2. Sam Bankman-Fried

Sam Bankman-Fried เป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2022 เมื่อพิจารณาจากเรื่องการล่มสลายของเว็บเทรด FTX ข้อเท็จจริงปรากฏในศาลว่า Bankman-Fried ได้ร่วมมือกับ Caroline Ellison อดีตแฟนสาว เพื่อทำขโมยเงินของผู้ใช้บริการไปใช้ในการลงทุน ที่มีมูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านดอลลาร์

หากย้อนกลับไปเราอาจจะจำได้ว่าคนในโลกคริปโตเรียก Bankman-Fried ว่านักบุญ แต่ใครจะรู้ว่า เขาแสร้งทำเป็นเป็นตัวแทนของความเห็นแก่ประโยชน์และความสัมพันธ์ส่วนรวม และทำอุตสาหกรรมคริปโตร่วงดิ่ง

อย่างไรก็ดี Bankman-Fried ยังงรอการพิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎระเบียบทางการเงินของการรณรงค์หาเสียง การฟอกเงิน และการฉ้อโกงหลักทรัพย์ คำตัดสินจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2024

3. Elizabeth Warren

Elizabeth Warren กล่าวโทษต่อ Bitcoin ว่า Bitcoin ต้องรับผิดชอบต่อการก่อการร้าย, การแพร่กระจายของนิวเคลียร์ และภาวะโลกร้อน แต่ประเด็นจริง ๆ ก็คือวุฒิสมาชิก Warren เป็นหนึ่งในผู้ว่าร้าย crypto ที่มีการเปิดเผยมากที่สุด และเธอไม่กลัวที่จะปล่อยให้ข้อเท็จจริงมาขัดขวางข้อโต้แย้งของเธอ

การโจมตีครั้งล่าสุดของเธอในภาคส่วนนี้คือ การนำเสนอร่าง “พระราชบัญญัติต่อต้านการฟอกเงินสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งเธอพยายามที่จะผลักดันให้ผ่านสภาคองเกรส 

4.Lazarus Group

เราอาจเคยได้ยินชื่อนี้อยู่บ่อยครั้งในการที่บริษัทใหญ่ ๆ ถูกแฮ็กเกอร์โจมตี “Lazarus Group” โดยกลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นในส่วนลึกที่มืดมนของเกาหลีเหนือ และสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมคริปโตมายาวนานในฐานะองค์กรแฮ็กอาชญากรรมทางไซเบอร์ชั้นนำ

Lazarus Group มีส่วนเกี่ยวข้องในการแฮ็ก crypto ที่สำคัญที่สุดหลายครั้งในปี 2023 คาดว่าแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือสร้างรายได้เกือบ 240 ล้านดอลลาร์ใน 104 วันจากการโจมตีแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง เช่น Atomic Wallet, Coinspaid, Alphapo และ Stake.com

5. Do Kwon

Do Kwon นั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกรณีของ Sฟท Bankman-Fried ซึ่งต้องยอมรับว่าผลกระทบ หลังจากการล่มสลายของทั้ง 2 เหตุการณ์ยังคงส่งผลต่อตลาดคริปโตในปัจจุบัน

UST  โปรโตคอลเหรียญ Stablecoin ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Do Kwon ซึ่งก่อตั้งขึ้นควบคู่ไปกับ Terra blockchain และเหรียญ LUNA กอดคอพากันร่วงดิ่งจนแทบไม่มีมูลค่า 

ตลอดทั้งปี 2022 Do Kwon ยุ่งอยู่กับการหลบหนีการจับกุมแม้จะถูกขอให้สอบปากคำในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

แต่ในที่สุด Do Kwon ก็ถูกจับกุมและถูกคุมขังในมอนเตเนโกรในข้อหาครอบครองหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งปัจจุบันเขาถจองจำอยู่ในเรือนจำในมอนเตเนโกร

ตามรายงาน Do Kwon กำลังทำทุกวิถีทางที่อยู่ในอำนาจของเขาเพื่อป้องกันการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เพื่อการพิจารณาคดี

ที่มา: cryptopolitan