<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เงิน 10,000 บาทลงทุนอะไรดี ? ให้ได้ผลตอบแทนรวดเร็ว ฉบับปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธเลยไม่ได้ว่าปัจจุบันการลงทุนเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ทั้ง GenY , GenZ ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรู้ที่สามารถหาได้ง่ายดายขึ้น หรือสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงก็ตามแต่ 

ทว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนนั้นไม่ได้มีเงินถุงเงินถังจะลงทุนได้ทีละเป็นล้าน ๆ เหมือนกับคนอื่น ๆ พอค้นหาใน Google ก็เจอตัวเลือกมากมายเต็มไปหมดไม่รู้จะเริ่มจากไหนดีวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจะสรุปให้ทุกท่านฟังว่าการลงทุนประเภทไหนเป็นอย่างไร และตัวไหนให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วที่สุด

*** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนเริ่มการลงทุน ***

(หมายเหตุ เครื่องหมาย ★ แสดงถึงความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์นั้น ๆ) 

การออมเงินฝากประจำ – ซื้อสลากออมทรัพย์  ★

สำหรับวิธีนี้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ได้ผลตอบแทนเร็วที่สุดแต่เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ขอเพียงแค่อย่าขาดวินัยทางการเงินก็พอแล้ว ซึ่งการลงทุนด้วยวิธีนี้จะเป็นการฝากเงินเข้าธนาคารทุกเดือนตามปริมาณและระยะเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ โดยแลกกับดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากมาประมาณ 3%

แต่หากต้องการเสี่ยงโชคหวังพึ่งรางวัลใหญ่ด้วย การเปลี่ยนจากการฝากประจำเป็นการซื้อสลากออมทรัพย์ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้จะน้อยกว่าเงินฝากประจำแต่ก็มีโอกาสที่จะถูกรางวัลเป็นล้านได้เช่นกัน โดยหากโชคดีก็อาจได้ผลตอบแทนมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น

สลากกินแบ่งรัฐบาล ★★

การซื้อ “หวย” อาจเป็นทางออกของใครหลาย ๆ คน เนื่องจากเพียงแค่กำเงิน 100 บาท ก็อาจเป็นเศรษฐีได้ในชั่วข้ามคืน แน่นอนว่าถ้าอยากถูกรางวัลมาก ๆ ก็ต้องซื้อหวยหลาย ๆ ใบ แต่ว่าถ้าถูกกินขึ้นมาเงินต้นทั้งหมดก็จะสูญไปทั้งหมด ด้วยความที่โอกาสในการถูกหวยนั้นอยู่ในระดับ 1 ในล้าน นี่จึงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมาก แต่การที่ตัวมันนั้นใช้เงินลงทุนที่ต่ำก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับชาวมนุษย์เงินเดือน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า หวย อาจไม่ใช่การลงทุนที่เป็นตัวเลือกที่ดี แต่เป็นการลุ้นโชคสนุก ๆ ให้ตื่นเต้นกันเสียมากกว่า

ตราสารหนี้ และ พันธบัตรรัฐบาล ★★

พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้จากธนาคาร หรือหุ้นกู้จากภาคเอกชน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแต่มีความเสี่ยงที่ต่ำเมื่อเทียบกับตัวอื่น ๆ ผลตอบแทนจะมาในรูปแบบของดอกเบี้ยซึ่งมีการจ่ายให้ในทุก ๆ งวด โดยจะมีการคืนเงินต้นให้เมื่อครบกำหนดเวลา ซึ่งมักจะกินเวลาประมาณ 3-5 ปี สำหรับด้านความเสี่ยงหากเจ้าหนี้เป็นรัฐบาลก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรมาก แต่ถ้าไม่ใช่ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้ด้วยเช่นกัน

กองทุนรวม ★★★

เพิ่มระดับความเสี่ยงขึ้นมาอีกขั้นกับกองทุนรวม ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้คือการฝากเงินของเราให้กับตัวแทนนำไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับคืนมา วิธีนี้จะได้ผลตอบแทนคืนมาเร็วกว่าตัวก่อนหน้าเป็นอย่างมาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะหากเราเลือกลงทุนผิดตัวก็อาจมีโอกาสเข้าเนื้อได้เช่นกัน แต่การลงทุนรูปแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่เราปล่อยให้คนอื่นจัดการลงทุนให้แทน ภาวนาแค่ว่าตัวแทนที่เราเชื่อมั่นนั้นจะมีความสามารถ และกองทุนที่เราเลือกนั้นจะไม่ขาดทุน

หุ้น ★★★★

นี่ถือเป็นการลงทุนที่ฮอตฮิตที่สุดในหมู่นักลงทุน เพราะสามารถทำกำไรได้มหาศาล แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงที่มหาศาลตามมาเช่นกัน ยิ่งถ้าหากทำการเทรดในสัญญาฟิวเจอร์สยิ่งสามารถทำกำไรได้มากขึ้นกว่าปกติหลายเท่าตัว แต่ใช้เงินลงทุนเท่าเดิม แต่ก็ต้องเผชิญความเสี่ยงกับการพอร์ตแตกด้วยเช่นกัน 

การลงทุนในหุ้นนั้นไม่ใช่การลงทุนที่ดีสำหรับมือใหม่ที่ขาดความรู้ ถึงแม่ว่าเราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากโบรคเกอร์ได้แต่ก็ต้องตระหนักด้วยว่าพื้นฐานของการลงทุนนั้นผู้ลงทุนควรจะต้องศึกษา และต้องมีความรู้อยู่เสมอ ส่วนในด้านระยะเวลานั้นหากเลือกซื้อหุ้นถูกตัวถูกจังหวะก็สามารถทำให้เราร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วได้เช่นกัน หรือ จะทนเก็บหุ้นไว้ก็ได้รอวันที่ราคาพุ่งสูงขึ้น

คริปโตเคอร์เรนซี ★★★★★

เรียกได้ว่าถ้าหากไม่นับสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว คริปโตถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุดในระยะเวลาอันสั้นที่สุดเนื่องจากความผันผวนของตลาดที่สูงมาก โดยการลงทุนในคริปโตนั้นมีทั้งรูปแบบสปอต และฟิวเจอร์สเหมือนกันกับหุ้น และหากต้องการผลตอบแทนที่สูงในเวลาอันสั้นการเทรดเหรียญหลักอย่าง Bitcoin อาจไม่ใช่คำตอบ ดังนั้นการเทรด Altcoin จึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการทำกำไร แต่แน่นอนว่า Altcoin บางตัวถึงแม้จะสามารถทำราคาได้เป็น 1,000% แต่ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าบางเหรียญนั้น “ไม่มีประโยชน์ใช้งานจริง” เช่น memcoin ทำให้การลงทุนที่คาดว่าจะทำกำไรนั้นต้องเสียเปล่า

กลับกันถ้ามองการซื้อคริปโตเป็นการเก็บออมมากกว่าการลงทุน ก็สามารถทำได้โดยอาจทยอยซื้อเหรียญที่มีความมั่นคงขึ้นมาหน่อยอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum เป็นประจำด้วยเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน เช่นเดียวกันกับการ DCA ออมหุ้น ซึ่งวิธีนี้อาจใช้เวลานานที่สุดเลยก็ว่าได้เนื่องจากไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าอีก 20 ปีต่อจากนี้ Bitcoin จะมีราคาเท่าไร ซึ่งเราอาจจะได้เห็น Bitcoin เหรียญละ 1 ล้านดอลลาร์ก็เป็นได้ในช่วงชีวิตนี้

สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวทุกท่านเองด้วยว่าสะดวกในการลงทุนสินทรัพย์ประเภทใดมากกว่ากัน เรื่องของความเร็วในการรับผลตอบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการลงทุนของแต่ละคนด้วยว่าต่างกันอย่างไร ยิ่งสินทรัพย์มีความเสี่ยงที่สูงผลตอบแทนก็ยิ่งมากเป็นสัจธรรมของการลงทุน ทั้งนี้ผู้ลงทุนต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุน และไม่ควรลงทุนเกินลิมิตจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ขอแค่เพียงมีวินัยทางการเงิน และการขวนขวายหาความรู้ ติดตามข้อมูลข่าวสาร และไม่นานเราอาจจะได้จับเงินก้อนโตกันก็เป็นได้