<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Halving Bitcoin อาจไม่ส่งผลดี! JPMorgan คาดราคา Bitcoin จะร่วงแตะ $42,000 ในเดือนเม.ย.

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน อาจส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์ Halving จะทำให้รางวัลของนักขุด Bitcoin ลดลงจาก 6.25 BTC ต่อบล็อก เหลือเพียง 3.125 BTC  ซึ่งการลดลงนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรของนักขุดและยังทำให้ต้นทุนการผลิต Bitcoin สูงขึ้นด้วย  นี่คือความเห็นจากนักวิเคราะห์ JPMorgan ที่นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou ตามรายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ต้นทุนการผลิต Bitcoin มีผลต่อราคาของมัน โดยนักวิเคราะห์ JPMorgan คาดการณ์ว่า หลังจากเหตุการณ์ Halving ราคา Bitcoin จะอยู่ที่ประมาณ 42,000 ดอลลาร์

“ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ ต้นทุนการผลิต Bitcoin ทำหน้าที่เป็นราคาพื้นฐาน (lower bound) สำหรับราคา Bitcoin” นักวิเคราะห์กล่าว

“จุดกึ่งกลางของประมาณต้นทุนการผลิตของเรานั้นอยู่ที่ 26,500 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าโดยอัตโนมัติ หลังจากเหตุการณ์ halving เป็น 53,000 ดอลลาร์ “

นักวิเคราะห์ยังกล่าวอีกว่า มีโอกาสที่อัตราแฮชเรท (hashrate) ของเครือข่าย Bitcoin จะลดลง 20% หลังจากเหตุการณ์ halving สาเหตุหลักมาจากการที่เครื่องขุดรุ่นเก่าที่มีประสิทธิภาพต่ำลง จะถูกทยอยนำออกจากเหมือง เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรลดลง ซึ่งการลดลงของอัตราแฮชเรท 20% นี้จะส่งผลให้จุดกึ่งกลางของช่วงประมาณการต้นทุนการผลิตของพวกเขาลดลงเหลือ 42,000 ดอลลาร์ โดยอิงจากค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเฉลี่ยที่ 0.05 ดอลลาร์ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า “การประมาณการราคาที่ 42,000 ดอลลาร์นี้ ยังเป็นระดับราคาที่เราคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะปรับตัวลงไปอยู่ หลังจากที่ความคึกคักจากเหตุการณ์ halving ของ Bitcoin ลดลงในเดือนเมษายน”

 ในขณะที่เขียน ราคาปัจจุบันของ bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 61,312 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก coinmarketcap

ความเข้มข้นของการขุด Bitcoin

ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หลังจากเหตุการณ์ Halving  นักขุด Bitcoin ที่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง จะสามารถอยู่รอดได้  ในขณะที่นักขุดที่มีต้นทุนการผลิตสูง จะต้องประสบปัญหา เนื่องจากรางวัลสำหรับการขุด Bitcoin จะลดลง

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หลังจากเหตุการณ์ Halving อุตสาหกรรมการขุด Bitcoin จะมีแนวโน้มความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการขุด Bitcoin ที่มีต้นทุนสูงจะประสบปัญหา ส่งผลให้สัดส่วนการขุดของบริษัทผู้ ขุด Bitcoin ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเหล่านี้สามารถลดต้นทุนการผลิตโดยรวม เพื่อรักษาผลกำไร

นักวิเคราะห์สรุปว่า “อาจจะมีการควบรวมกิจการ และการประสานงานรวมกิจการแบบแผน (Horizontal Integration) ระหว่างนักขุด Bitcoin ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในธุรกิจของพวกเขา”

ที่มา : The Block