<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเทรดเตรียมตัว! ตัวชี้วัดในตำนานส่งสัญญาณ “การปรับฐาน” Bitcoin เตรียมรับมือความผันผวน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Maartunn ผู้จัดการชุมชน CryptoQuant เนเธอร์แลนด์ โพสต์บน Twitter ว่า ปัจจุบันราคา Bitcoin (BTC) สูงกว่าราคาต้นทุนของผู้ถือระยะสั้น (Short-term holder) ถึง 40% ซึ่งบ่งชี้ว่า Bitcoin อาจมีการปรับฐานเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

อินดิเคเตอร์ที่น่าจับตาคือ “Market Value to Realized Value (MVRV) ratio” ซึ่งเปรียบเทียบระหว่าง Bitcoin market cap กับ Realized cap MVRV ratio บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างมูลค่าตลาด (Market cap) กับมูลค่าที่แท้จริง (Realized cap) ซึ่งสะท้อนถึงอารมณ์ของนักลงทุน

“Realized Cap” คือ รูปแบบการคำนวณมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ โดยพิจารณาว่า “มูลค่าที่แท้จริง” ของเหรียญแต่ละเหรียญที่อยู่ในระบบ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาตลาดปัจจุบัน (Spot Price) แต่ขึ้นอยู่กับ “ราคาตอนที่เหรียญถูกเคลื่อนย้ายครั้งล่าสุดบนบล็อกเชน” 

การโอนเหรียญครั้งก่อนหน้า น่าจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เหรียญเปลี่ยนมือ ดังนั้น ราคาในเวลานั้นจะทำหน้าที่เป็น “ต้นทุนปัจจุบัน” ของเหรียญนั้นๆ ด้วยเหตุนี้ Realized Cap จึงเป็นผลรวมของต้นทุนของเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบ 

ในหัวข้อที่เรากำลังพูดถึง อัตราส่วน MVRV ของตลาดทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ แต่เป็นกลุ่มเฉพาะกลุ่มหนึ่ง: “ผู้ถือระยะสั้น” (Short-term holders: STHs) กลุ่ม STH ประกอบด้วยนักลงทุนทั้งหมดที่ซื้อเหรียญของพวกเขาภายใน 155 วันที่ผ่านมา 

กราฟด้านล่างแสดงแนวโน้มของอัตราส่วน Bitcoin MVRV สำหรับนักลงทุนเหล่านี้อย่างเฉพาะเจาะจงในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของสกุลเงินดิจิทัล

ตามที่แสดงในกราฟ ดัชนี Bitcoin STH MVRV สูงกว่า 1 มาสักพักแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ถือครองระยะสั้น (STH) อยู่ในภาวะกำไรสุทธิ แต่ด้วยการพุ่งขึ้นล่าสุดของราคา ดัชนีนี้อีกพุ่งสูงขึ้นไปอีก 

ราคา spot ของ Bitcoin เพิ่งอยู่สูงกว่าราคาต้นทุนเฉลี่ยของกลุ่มคนที่ถือครองระยะสั้นนี้ 40% กราฟแสดงให้เห็นว่าระดับเดียวกันนี้เคยนำไปสู่การปรับฐานของราคาสินทรัพย์มาแล้วหลายครั้งในอดีต

แน่นอนว่า ตัวชี้วัดนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าราคา Bitcoin จะต้องปรับตัวลดลงอย่างแน่นอน แต่เป็นการอ้างอิงถึงข้อมูลในอดีต ที่ราคา Bitcoin เคยปรับตัวลดลงหลังจากตัวชี้วัดแตะระดับนี้

การส่งสัญญาณในลักษณะนี้ บ่งบอกว่าราคามีโอกาสที่ปรับตัวลดลงอีกครั้ง เหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้เบื้องหลังรูปแบบนี้อาจเป็นเพราะนักลงทุน Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเทขายเพื่อทำกำไรมากขึ้น เมื่อกำไรจากการถือที่เพิ่มขึ้น