<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin ถูกกล่าวว่า ‘ตายแล้ว’ เกิน 400 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2010 แต่ราคาก็ยังพุ่งขึ้นทำ New High ในปีนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลอดประวัติศาสตร์ของ Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นความล้มเหลวและถูกบอกว่า ‘ตายแล้ว’ โดยนักวิจารณ์และผู้ที่สงสัยใน Bitcoin อยู่หลายครั้ง ที่น่าสนใจคือ ราคาของ Bitcoin นั้น เพิ่มขึ้นถึง 21,000 ดอลลาร์ นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ถูกประกาศว่าตายในปี 2024

ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์ 99Bitcoins แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 2010 ‘Bitcoin’ ถูกมองว่า “ตาย” ไปแล้ว 476 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนด้านการเงินแบบดั้งเดิม เจ้าของธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล และบุคคลที่มีอิทธิพลสูง 

ครั้งล่าสุดที่ Bitcoin ถูกประกาศว่าตายคือในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านบทความบล็อกของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งกล่าวว่า “Bitcoin นั้นล้มเหลว” ในขณะนั้น Bitcoin มีการซื้อขายที่ราคา 51,304 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบัน พุ่งสูงกว่า 40% ทะลุระดับ 73,000 ดอลลาร์

ตัวอย่างครั้งก่อนที่ Bitcoin ถูกประกาศว่าตาย

ปี 2023 เป็นอีกปีที่ Bitcoin ถูกมองว่าตายไปถึง 8 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคม ขณะนั้น นิตยสาร Forbes ระบุว่า BlackRock จะ “ทำลาย Bitcoin อย่างสิ้นเชิง”

แต่ที่น่าสังเกตคือ บริษัท BlackRock Inc กลับลงทุนอย่างต่อเนื่องในคริปโต ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเงินแห่งนี้ถือครองกองทุน Bitcoin spot ETF ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทขุด Bitcoin ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา

เว็บไซต์ 99Bitcoins อธิบายการตายและบทความแง่ลบของ Bitcoin ไว้ดังนี้:

เนื้อหาของบทความ (ไม่ใช่แค่หัวข้อ) ต้องระบุอย่างชัดเจนว่า Bitcoin ไม่มีหรือจะไม่มีค่า (ไม่ใช่ “อาจจะ” หรือ “เป็นไปได้”)

เนื้อหาต้องมาจากบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก หรือเว็บไซต์ที่มีปริมาณการเข้าชมสูง

คำวิจารณ์และจุดบกพร่องของ Bitcoin

แม้คำกล่าวที่ว่า “Bitcoin ตายแล้ว” จะดูเกินจริง แต่ในบางครั้งบทความแง่ลบจำนวนมากก็มีคำวิจารณ์ที่น่าคิดและมีเหตุผล

น่าเสียดายที่แทนที่จะพิจารณาหลักการพื้นฐานเบื้องหลังการเกิดขึ้นของคำวิจารณ์ เหล่าผู้สนับสนุน Bitcoin กลับสร้างมีมและโจมตีนักวิจารณ์ด้วยถ้อยคำรุนแรง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากแนวคิดที่เรียกว่า “toxic maximalism”

ตัวอย่างเช่น ความพยายามของ BlackRock ในโลกของสกุลเงินดิจิทัลนั้น ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงของการรวมศูนย์ที่มากขึ้น นอกจากนี้ เครือข่ายของ Bitcoin เองก็แสดงสัญญาณของแนวโน้มการรวมศูนย์ไปตามกาลเวลา ซึ่งมักถูกมองข้ามโดยกลุ่ม “ผู้สนับสนุนบิตคอยน์สุดโต่ง”

นอกจากนี้ คำกล่าวที่ว่า Bitcoin ล้มเหลวของธนาคารกลางยุโรปในปี 2024 ยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของ Bitcoin ในฐานะสกุลเงินหรือวิธีการชำระเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สนับสนุนอย่างแข็งขันส่วนใหญ่ยอมรับอยู่แล้ว เช่น Michael Saylor อดีต CEO ของ MicroStrategy กล่าวว่า “Bitcoin ไม่จำเป็นต้องเป็นสกุลเงิน” ในการสัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 11 มีนาคม

ดังนั้นนักลงทุนจะต้องเปิดกว้างเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจ Bitcoin หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่พวกเขาลงทุนอย่างลึกซึ้ง Bitcoin อาจไม่ “ตาย” แต่แน่นอนว่ามีจุดล้มเหลวและการปรับปรุงที่อาจเกิดขึ้น

ที่มา: finhold