PlanB นักวิเคราะห์ชื่อดังผู้สร้างโมเดลทำนายราคา Bitcoin อย่าง Stock-to-Flow (S2F) ได้ออกมาแชร์มุมมองล่าสุดบน X ซึ่งจุดประกายความตื่นเต้นและการคาดการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเน้นย้ำเกี่ยวกับ เส้นทางที่เป็นไปได้ของราคา Bitcoin (BTC) ตลอดช่วงการ halving cycles ที่จะเกิดขึ้น
การวิเคราะห์ราคา Bitcoin ของ PlanB มีพื้นฐานมาจากโมเดล S2 ซึ่งโมเดล S2F นี้ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณ Bitcoin ที่มีอยู่ทั้งหมด (stock) กับปริมาณ Bitcoin ที่ผลิตใหม่ต่อปี (flow) และวางรากฐานสำหรับการคาดการณ์ราคาที่ชัดเจนในอนาคต
ชุมชน Bitcoin ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ตามโมเดล วงจรการ halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2020-2024 คาดว่า จะรักษาราคา Bitcoin ให้มั่นคงอยู่ที่ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ จะเกิดขึ้นในวัฏจักรอบต่อไป โดยมีการคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ ในวัฏจักรระหว่างปี 2024-2028 และพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 5 ล้านดอลลาร์ ในวัฏจักรระหว่างปี 2028-2032
การคาดการณ์ของ PlanB ได้จุดประกายความสนใจและการถกเถียงกันในหมู่ชุมชน crypto หลายคนอยากรู้ว่า Bitcoin จะได้สัมผัสกับการพุ่งขึ้นของราคาตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
ผู้ใช้งานรายหนึ่งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ได้ตอบกลับโพสต์ของ PlanB โดยแสดงความเห็นด้วยกับแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้ แต่เตือนให้ระมัดระวัง เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่สามารถการันตีราคาที่แน่นอนในอนาคตได้ เช่น การคาดการณ์ราคาเฉลี่ยที่ 500,000 ดอลลาร์ ในช่วงระหว่างปี 2024 ถึง 2028
PlanB เห็นด้วยกับความเห็นที่แนะนำให้ระมัดระวัง โดยเขาชี้แจงว่า การคาดการณ์ของเขามีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์ halving 3 ครั้งที่ผ่านมา และช่วงเวลาก่อนเกิดการ halving ที่สำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่า แม้โมเดล Stock-to-Flow จะช่วยเป็นไกด์สำหรับแนวโน้มราคาโดยทั่วไปได้ แต่ความแม่นยำยังคงมีช่องว่างยังมีความผิดพลาดอยู่พอสมควร
ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ช่วงปี 2020-2024 มีการคาดว่าจะเห็นค่าเฉลี่ยราคา Bitcoin อยู่ที่ 55,000 ดอลลาร์ แต่ตัวเลขจริงอยู่ที่ประมาณ 33,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานรายอื่นที่ใช้ชื่อว่า Phoenix of Crypto ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า แม้การคาดการณ์ของ PlanB อาจจะดู “มองโลกในแง่ดีมากเกินไป” แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงยังไม่มีใครรู้แน่ชัด สิ่งสำคัญคือ การอดทนรอคอย
ผู้ใช้รายนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกองทุน ETF และการยอมรับอย่างแพร่หลาย ซึ่งบ่งบอกถึงมุมมองที่เปิดกว้างแต่รอบคอบต่อการพัฒนาของตลาด
ที่มา : newsbtc