<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์จาก Glassnode เตือน Bitcoin Halving ในครั้งนี้อาจไม่เหมือนครั้งไหนๆ มาก่อน!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Marcin Miłosierny นักวิเคราะห์จาก Glassnode ได้ออกมาเตือนนักลงทุนให้เตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่เหตุการณ์ Bitcoin Halving กำลังจะมาถึง พร้อมกับวิเคราะห์ว่า Halving ในครั้งนี้อาจแตกต่างจากครั้งไหนๆ 

โดย Marcin ได้ชี้ว่า ในตอนนี้นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมกับ Bitcoin Halving ที่กำลังจะมาถึง เพราะเหตุการณ์สำคัญนี้อาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดได้ต่างจากรอบที่ผ่านมา เพราะว่า Halving ในครั้งนี้เปลี่ยนเสมือนว่าเป็นสัญญาณสำหรับนักลงทุนว่าตลาดกระทิงได้มาถึงแล้ว

ซึ่งสาเหตุที่เป็นอย่างงั้นเพราะว่าในช่วงตลาดกระทิงรอบก่อนๆ ของ Bitcoin ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นหลังจาก Halving เท่านั้น แต่ราคายังได้ขึ้นไปทำทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล ทว่าในครั้งนี้ราคา Bitcoin ได้ขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลก่อนที่ Halving จะมาถึง ซึ่งอาจส่งผลให้เหตุการณ์ในครั้งนี้แตกต่างกันออกไป

ถึงแม้ว่าตามทฤษฎีแล้ว Halving จะส่งผลให้อุปทานของ Bitcoin ลดลง และผลักดันให้ราคาเพิ่มขึ้น ทว่าในตลาดรอบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเล่นตามกฎอุปสงค์และอุปทานแบบเก่าอีกต่อไป เพราะการมาของ Bitcoin ETF ส่งผลให้ Bitcoin ขาดแคลนหนักขึ้นไปอีก

เพราะในตอนนี้ นักขุดทั่วโลกสามารถขุด Bitcoin ได้ประมาณ 900 BTC เข้าสู่ตลาดทุกวัน และจะลดลงเหลือเพียงแค่ 450 BtC หลังจาก Halving มาซึ่ง ซึ่งสวนทางกับ ETF ที่ได้กว้านซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้อุปทานลดน้อยลงไป และผลักดันให้ราคาผันผวนมากยิ่งขึ้น

ทว่าการสะสมของ ETF นั้นส่งผลให้พวกเขาสามารถเข้ามาควบคุมราคาตลาดได้ทั้งสองทิศทาง และถ้าหากว่ากองทุนเหล่านี้เริ่มขาย Bitcoin ออกจำนวนมาก ก็อาจส่งผลให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็วได้ เพราะฉะนั้นนักลงทุนควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของ ETF ให้ดีก่อนที่ Halving จะมาถึง

นอกจากนี้ ท่ามกลางความวุ่นวายของตลาด เราก็ไม่สามารถมองข้ามนักลงทุนที่ถือครอง Bitoin ในระยะยาว (LTH) ได้เช่นกัน เพราะคนเหล่านี้mujยึด Bitcoin ไว้เหมือนหีบสมบัติ ถือเป็นอีกบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อเปลี่ยนแปลงอุปทานของตลาดโดยตรง

เพราะพวกเขาแตกต่างจากผู้ที่ถือ Bitcoin ในระยะสั้น ในขณะที่ LTH มีแนวโน้มที่จะรักษาความมั่นคงผ่านอารมณ์ที่แปรปรวนของตลาด ทำให้การสะสมของพวกเขาเป็นส่วนสำคัญของปริศนาของอุปทานในตลาด

แต่เราสามารถรู้ได้ว่าพวกเขาสะสม Bitcoin เอาไว้เพื่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น และวิธีที่ดีในการบอกว่าพวกเขาเหล่านี้สะสม Bitcoin มากเพียงใด คือการดูตัวชี้วัดที่แสดงถึงจำนวนการสะสม Bitcoin คู่ไปกับราคา และอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ แนวโน้มทางจิตวิทยาเกี่ยวกับเหตุการณ์ Halving ในอดีตนั้น อาจส่งผลให้เกิดการขายข่าวเหมือนกับปี 2016 ได้ ที่ราคาได้ร่วงหลังหลังจาก Halving แสดงให้เห็นว่าตลาดมีการตอบสนองมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซี 

ที่มา: Cryptopolitan