เหล่านักเทรดคริปโตในไทยต่างจับจ้องข่าวสารของ Bitcoin อย่างใจจดใจจ่อ เพราะต่างคาดหวังว่ามันจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดคริปโตโดยรวมมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้น และพวกเขาอาจกำลังใกล้จะได้พบกับสิ่งที่รอคอยแล้ว
แรงกระตุ้นนี้ทำให้พวกเขาแห่กันเข้าร่วม ICO ของ Bitbot เพื่อเตรียมตัวสำหรับตลาดขาขึ้นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ Bitbot นั้นเป็นบอทเทรด Telegram แบบ Non-custodial ตัวแรกของโลก และกลายเป็นหนึ่งใน Presale คริปโตที่ดีที่สุดของปีนี้ด้วยยอดระดมทุนกว่า 1.4 ล้านดอลลาร์
เรามาดูกันว่า ทำไม Bitbot อาจมาเปลี่ยนแปลงวงการบอทเทรด และนักลงทุนที่ลงทุนในช่วง Presale จะคาดหวังอะไรได้บ้างในปี 2024
ข่าว Bitcoin เป็นเชื้อเพลิงให้กับนักเทรด crypto ชาวไทย
ราคา Bitcoin ที่พุ่งสูงแตะจุดสูงสุดใหม่เหนือ 70,000 ดอลลาร์ ได้สร้างความคึกคักให้กับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าราคาจะปรับฐานลงมาอยู่ต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์ แต่ Bitcoin กำลังมีเหตุการณ์สำคัญหลายประการที่นักลงทุนจากประเทศไทยต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่แค่เรื่อง Halving แต่มันคือ ปัญหาวิกฤตสภาพคล่องของด้าน Supply ตามข้อมูลจากผู้ก่อตั้ง CryptoQuant อย่าง Ki Young Ju ที่กล่าวว่า กองทุน Bitcoin ETFs ได้ทำการสะสม Bitcoins ไปถือครองมากกว่า 450,000 BTC นั่นหมายความว่า มีเหรียญมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ถูกล็อคไป โดยเว็บเทรดคริปโตและนักขุดถือครองอยู่ประมาณ 3 ล้าน BTC เนื่องจากกองทุน ETF ไม่มีทีท่าว่าจะเก็บ Bitcoin ช้าลงเลย นี่จึงเป็นการเพิ่มความต้องการให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เกินกว่าจำนวน Supply เหรียญทั้งหมด
พายุแห่งความตื่นเต้นครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนจากประเทศไทยต่างออกตามหาโปรเจกต์ใหญ่ โปรเจกต์ที่มีโอกาสทำราคาสูงขึ้น เมื่อเกิด Altseason ที่มักจะตามมาหลัง Bitcoin ทำราคาสูงสุด และคุณรู้อะไรไหม ? วงการบอทเทรด Telegram ก็กำลังเป็นที่นิยม
เนื่องจากวงการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง (โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่เพียง $1 พันล้าน) ดังนั้นโทเค็น BITBOT ของ Bitbot จึงน่าจะเข้ามาคว้าตำแหน่งผู้นำตลาดไปได้ไม่ยาก โดยหลาย ๆ คนเชื่อว่า นี่คือการ Presale คริปโตที่ดีที่สุดของปีนี้ รวมถึง Bitbot ยังสามารถเปิดตัวได้ ในจังหวะที่ยอดเยี่ยม
Bitbot: บอทเทรดแบบ Non-custodial ชั้นนำที่นักลงทุนหลงรัก
ตลาดบอทเทรด Telegram เป็นหนึ่งในวงการที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกคริปโต โดยสามารถทำปริมาณการเทรดรวมสูงถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 เป็นต้นมา และมีวันที่ปริมาณการเทรดสูงที่สุดคือวันที่ 18 มีนาคม โดยมีปริมาณการเทรดสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์
แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะสวยงามไปซะหมด ยักษ์ใหญ่ของตลาดอย่าง Maestro, Banana Gun, และ Unibot ก็ต้องพบเจอกับบัคและการแฮ็ก ส่งผลให้ผู้ใช้ต้องเสียเงินไปมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงช่องโหว่บอทที่ถือเงินลงทุนของผู้ใช้งาน ทำให้ตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย
เมื่อทราบถึงปัญหานี้ Bitbot จึงเสนอวิธีการที่มีความปลอดภัยกว่า ด้วยการร่วมเป็นพันธมิตรกับ KnightSafe โซลูชัน Open-source Self-custody กระจายศูนย์ที่ทำการป้องกันสินทรัพย์อยู่กว่า 28 ล้านดอลลาร์ โดย Bitbot คือ บอทเทรด Telegram แบบ Non-custodial ตัวแรกของโลก หมายความว่า นักเทรดจะมีสิทธิ์ควบคุมเงินทุนของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ จนกว่าการเทรดจะถูกดำเนินการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในแนวทางที่ไม่เหมือนใครนี้สามารถดูได้จาก Medium post
Bitbot ไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาด้านความปลอดภัย โดยมีฟีเจอร์ Snipe เป็นการใช้ประโยชน์จาก AI ( อีกหนึ่งวงการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว) เพื่อค้นหาสัญญาณ On-chain สำหรับโปรเจกต์คริปโตอนาคตสดใสที่ยังเป็นที่รู้จักไม่มากนัก ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าเทรดได้อัตโนมัติทันทีที่โปรเจกต์เหล่านี้เปิดตัว
Bitbot ยังมีช่องทางในการทำกำไรอื่น ๆ อย่างเช่น โปรแกรมการแชร์รายได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ถือ BITBOT ได้รับส่วนแบ่งเป็นรายได้รายวันของแพลตฟอร์มสูงถึง 50% และโปรแกรมการแนะนำเพื่อน ซึ่งจะมอบรางวัลกับผู้ใช้งานเป็นเงินค่าธรรมเนียมจากการเทรดของผู้ที่ทำการแนะนำ 15% ไปตลอดชีวิต
โดยรายได้รายวันของวงการนี้อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ และปริมาณอาจสูงถึง 12,000 ดอลลาร์ ต่อผู้ใช้หนึ่งคน เฉพาะ 2 โปรแกรมนี้ก็อาจทำให้การถือโทเค็น BITBOT เป็นหนึ่งในโทเค็นที่ทำเงินได้มากที่สุดทั้งระยะสั้นและระยะยาว และนี่ยังไม่ได้รวมถึงการวิเคราะห์ศักยภาพการเติบโตราคาในระยะยาว สำหรับโทเค็น BITBOT
ทำไม Bitbot อาจกลายเป็นการ Presale คริปโตที่ดีที่สุดของประเทศไทยในปี 2024
นักลงทุนทั่วประเทศไทยต่างแห่เข้าลงทุนไปกับ ICO ของ Bitbot โดยคาดการณ์ว่าวันนี้จะเป็นหนึ่งในการ Presale คริปโตที่ดีที่สุดของปี 2024 ซึ่งราคาคริปโตที่เป็นไปในเชิงบวกกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในวงการบอทเทรด อย่างที่เราจะเห็นได้จากด้านล่างนี้ และด้วยการที่ Bitcoin อาจกำลังจะเกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง ทำให้โปรเจกต์นี้พร้อมแล้วที่จะเติบโตอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง
เรื่องราวของ Banana Gun ถึงแม้อาจจะเริ่มต้นได้ไม่ราบรื่นนัก แต่ก็เพิ่งทำราคาสูงสุดตลอดกาลไป และทำเงินให้กับนักลงทุนที่ Presale สูงถึง 60x, แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วงการนี้ยังมีศักยภาพอีกมาก
เรื่องราวของ Unibot ทำให้เรามอง Bitbot ไปในเชิงบวก ถึงแม้โทเค็นจะมีปริมาณลดลงถึง 40% หลังจากเกิดการแฮ็กเป็นปริมาณ +$500k ราคาโทเค็นก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 70% จากราคาเปิดตัว และราคาเพิ่มขึ้นที่ระดับสูงสุดตลอดกาล โดยทำราคาเพิ่มขึ้นไปถึง 200x ให้กับนักลงทุน ในช่วงเริ่มต้นของการ Presale
ด้วยการมุ่งเน้นในด้านความปลอดภัย และการใช้ AI ขั้นสูง เพื่อค้นหาโอกาสในโลกคริปโตที่น่าสนใจ Bitbot มีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริงเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 0.0134 ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในเฟสที่ 7 ของการ Presale 15 เฟส ซึ่งราคาของโทเค็น Bitbot ยังสามารถเพิ่มขึ้นไปได้อีก 49.25% ก่อนที่ราคาจะสิ้นสุดการ Presale ไปได้ถึง 0.02 ดอลลาร์
เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพของวงการบอทเทรด และการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในช่วงเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าโปรเจกต์ใกล้เคียงกันที่แม้จะมีข้อบกพร่อง แต่ Bitbot พร้อมแล้วที่ราคาจะพุ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ซื้อขายแลกเปลี่ยนในปี 2024 เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของ Banana Gun เป็นตัวเปรียบเทียบ การมองว่า ราคาจะเพิ่มขึ้น 10x ภายในปีนี้อาจจะเป็นการมองในแง่ลบไปหน่อย แต่การทำราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 50x หรือมากกว่า นั้นดูจะมีความเป็นไปได้จริงมากกว่า
การ Presale ของ Bitbot กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่าพลาดโอกาส
นักเทรดคริปโตชาวไทยที่มองบวก อาจพบโอกาสในโปรเจกต์ Bitbot โดยโปรเจกต์นี้มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X มากกว่า 110k และมีสมาชิกในช่อง Telegram มากกว่า 20k ในระหว่างช่วงของการ Presale
ด้วยการที่ Bitbot ระดมทุนได้ทะลุระดับ 1 ล้านดอลลาร์ นักลงทุนที่มีประสบการณ์จากประเทศไทยต่างรีบคว้าโอกาสการทำกำไรในระหว่างการ Presale เนื่องจากโทเค็น BITBOT มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นบอทเทรด Telegram ชั้นนำในตลาด และทำราคาพุ่งขึ้นในตลาดขาขึ้นปี 2024
เข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อโทเค็น BITBOT ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์