เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา Tether ผู้ออกเหรียญ Stalecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง USDT ได้ซื้อ Bitcoin รวมมูลค่ากว่า 618 ล้านดอลลาร์ หวังใช้สินทรัพย์กระจายความเสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางกระแสนักลงทุนสถาบันที่หันมาสนใจ Bitcoin
โดยข้อมูลล่าสุดจากแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ บล็อกเชน Arkham Intelligence เผยว่า Tether ได้ซื้อ Bitcoin จำนวนกว่า 8,888 BTC คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 618 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัทมี Bitcoin สะสมรวมอยู่ที่ 75,354 BTC
ส่งผลให้ Tether กลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin เยอะที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลก อย่างไรก็ตามจำนวนดังกล่าวยังคงห่างจาก Cold Wallet ของ Bitcoin ที่ยังคงเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ ด้วยจำนวนมากถึง 248,597 BTC คิดเป็นมูลค่าถึง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Bitinfocharts
ซึ่งการซื้อในครั้งนี้ Tether ได้รายงานว่าทางบริษัทตั้งใจที่จัดสรร Bitcoin ให้มีจำนวนมากถึง 15% จากรายได้สุทธิ เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นและยกระดับความยั่งยืนรวมถึงความน่าเชื่อถือของ Stablecoin ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเน้นย้ำถึงการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงรุกของ Tether
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Tether จะได้ทำการซื้อ Bitcoin จำนวนมาก แต่มันก็ไม่ได้สามารถสู้กับความผันผวนของราคาเหรียญได้ หลังราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมาแตะที่ 65,000 ดอลลาร์อีกครั้งในวันที่ 2 เมษายน ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การที่ราคาร่วงลงครั้งนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนที่เหตุการณ์ Bitcoin Halving จะมาถึง ในขณะนักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีผลมาจากกระแส Halving แต่อย่างใด
ที่มา: Cryptopolitan