เป็นเวลากว่า 18 วันแล้วที่ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $73,835 ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งปัจจุบันราคาก็ได้ร่วงดิ่งลงต่ำกว่า 65,000 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ธรรมชาติของ Bitcoin Halving
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin มีการปรับลดลงมาจากธรรมชาติของตัว Bitcoin เองที่ช่วงก่อนหน้าการ halving เราจะเห็นราคามีการปรับฐานลงมา ซึ่งเพียงแค่วันนี้วันเดียวราคาก็ได้มีการลดลงมากว่า 6.54% จากเมื่อวาน โดยการปรับฐานนี้จะยังคงอยู่ก่อนที่การ halving จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 เมษายน
ด้านนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Rekt Capital ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การที่ราคา Bitcoin ลดลงตอนนี้นั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อรอบที่แล้วเราเคยได้เห็นราคา Bitcoin ร่วงไปกว่า 38% และ 20% ตามลำดับจากการ halving ครั้งที่สองและสาม
ภาพ : กราฟราคา Bitcoin โดย Rekt capital
การล้างพอร์ตในตลาดฟิวเจอรส์ และวอลุ่มการเทรดที่ลดลง
ปัจจัยถัดมาที่ทำให้ราคา Bitcoin ลดลงเป็นผลมากจากการล้างพอร์ตในตลาดฟิวเจอรส์ ที่ตลอด 24 โมงที่ผ่านมามีการล้างพอร์ตไปกว่า 115 ล้านดอลลาร์ ประกอบการที่แรงขายจากนักเทรดลดลง และวอลุ่มการเทรดที่ลดลงต่ำที่สุดในรอบวันแบบ year-to-date ส่งผลให้ราคาเกิดความผันผวน
ภาพ : สัดส่วน Liquidation จาก Coinglass
จำนวนนักเทรดที่ถือเหรียญระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น
สำหรับปัจจัยสุดท้ายนอกเหนือจากวอลุ่มการเทรดที่ลดลงแล้วจะเห็นได้ว่าจำนวนนักลงทุนที่ถือเหรียญระยะยาวเริ่มทำการกำจัดความเสี่ยงและนำเหรียญออกมาขายทำกำไร รวมไปถึงการซื้อขายกันในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะสั้น ซึ่งในตอนนี้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวถืออุปทานเหรียญสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2021 เป็นผลทำให้ราคาของ Bitcoin ปรับตัวลงเช่นกัน
ภาพ : กราฟแสดงจำนวนนักเทรดที่ถือเหรียญในระยะสั้น โดย Glassnode
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายมองว่าในระยะยาวราคาของ Bitcoin จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างแน่นอน เพราะในปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันคอยค้ำชูไว้อยู่
ที่มา : Cointelegraph