<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘วอน’ เกาหลีใต้ครองแชมป์! สกุลเงินเฟียตที่ถูกใช้เทรดคริปโตมากที่สุดในโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัย Kaiko ระบุว่า การที่สกุลเงินวอนของเกาหลีใต้กลายเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก สงครามค่าธรรมเนียม ระหว่างบริษัทเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซีของเกาหลี

สกุลเงินวอนเกาหลีใต้ (South Korean won) ขึ้นแท่นเป็นสกุลเงินดั้งเดิม (fiat currency) ที่ถูกนำไปใช้เทรดคริปโตเคอเรนซีมากที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024

ตามรายงานวิจัยของบริษัท Kaiko ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 เมษายน สกุลเงินวอนเกาหลีใต้ มีปริมาณการเทรดบนเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซี (centralized crypto exchanges) มากกว่า 4.56 แสนล้านดอลลาร์ ตลอดช่วงไตรมาสแรกของปี 2024  ซึ่งแซงหน้าปริมาณการเทรดที่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (US dollar) ที่มีมูลค่ากว่า 4.45 แสนล้านดอลลาร์

บริษัทวิจัย Kaiko แสดงให้เห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ สกุลเงินวอนเกาหลีใต้มีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นมาจาก “สงครามค่าธรรมเนียม” ระหว่างบริษัทเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซีของเกาหลี โดยรายงานระบุว่า: 

“สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่กำลังดีขึ้น ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างบริษัทเว็บเทรดของเกาหลีใต้ ส่งผลให้ปริมาณการเทรดในตลาดเกาหลีเพิ่มสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในช่วงต้นเดือนมีนาคม และในไตรมาสแรกของปี 2024 สกุลเงินวอนเกาหลีใต้ยังสามารถแซงหน้าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในแง่ของปริมาณการซื้อขายสะสมอีกด้วย”

เมื่อเทียบกันแล้ว คู่สกุลเงินยูโร มีปริมาณการเทรดสะสมเพียงแค่ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่อันดับที่สาม สำหรับไตรมาสแรกของปี 2024

สงครามค่าธรรมเนียมคริปโต ระหว่างเว็บเทรดของเกาหลีใต้ทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่ Upbit ยังคงเป็นเว็บเทรดอันดับต้น ๆ

ในฐานะเว็บเทรด crypto ชั้นนำของภูมิภาค Upbit ครองส่วนแบ่งตลาดคริปโตของเกาหลีใต้มากกว่า 82% ตั้งแต่ปี 2021

อย่างไรก็ตาม ภาวะขาขึ้นในตลาดคริปโตที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ระหว่างเว็บเทรดที่เป็นคู่แข่งกัน โดยทั้งเว็บเทรดอย่าง Bithumb และ Korbit ได้เปิดตัวแคมเปญค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์ ในช่วงปลายปี 2023

ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของ Korbit ยังคงต่ำกว่า 1% แต่ส่วนแบ่งการตลาดของ Bithumb เพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงหลายเดือน หลังจากมีการประกาศนโยบายการซื้อขายแบบไม่มีค่าธรรมเนียมในเดือนตุลาคม 2023 

อย่างไรก็ตาม นโยบายค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์ ส่งผลให้ เว็บเทรด Bithumb มีรายได้ลดลงอย่างมาก ตามข้อมูลของ Kaiko

“แม้จะมีกลยุทธ์การเก็บค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์ ส่งผลให้ปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น แต่รายได้ต่อปีของ Bithumb ก็ลดลง 60% ในปี 2023 ซึ่งรายได้ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทเว็บเทรดยุติแคมเปญปลอดค่าธรรมเนียม ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นับเป็นระยะเวลาเพียงแค่ 5 เดือนหลังจากเปิดตัว”

บริษัทวิจัยยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ปริมาณของสกุลเงินวอนของเกาหลีที่ลดลงในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยคาดการณ์ว่า จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin และ Ether (ETFs) ในฮ่องกง ได้รับการอนุมัติ

ที่มา : cointelegraph