<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์คริปโต กล่าวว่า “คุณไม่มีทางรู้เลยว่าขาขึ้นครั้งนี้จะบ้าคลั่งขนาดไหน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ล่าสุด Lark Davis ผู้มีอิทธิพลและนักวิเคราะห์ คริปโต ได้แบ่งปันความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาด Bitcoin โดยระบุว่าแรงผลักดันขาขึ้นยังไม่จบสิ้น

โดย Davis ได้โพสต์ลงในบัญชี X ของเขา ว่าแรงผลักดันขาขึ้นยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด โดยอ้างถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ โดยมุมมองเชิงบวกของเขาได้รับการหนุนจากประเด็นต่อไปนี้:

เหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานได้ทำการลดรางวัลบล็อกจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ซึ่งเป็นการลดอุปทานรายวันของ Bitcoin ใหม่ที่ออกมาอย่างมีนัยสำคัญ เขาระบุว่ากำลังผลิตของเหมือง Bitcoin ลดลงเหลือเพียง 450 BTC ต่อวัน ซึ่งนี่เป็นการเน้นย้ำถึงความหายากของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำถึงความต้องการ Bitcoin ที่มากขึ้นของสถาบัน โดยเฉพาะผ่านกองทุน ETF โดยระบุว่า “ETF ของสหรัฐฯ กำลังซื้อ BTC หลายพันเหรียญทุกวัน” ซึ่งนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนสถาบันในตลาดอย่างมหาศาล

และแน่นอนว่า Davis กล่าวถึงการเปิดตัวกองทุนรวม Bitcoin spot ETF ของฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า และการคาดการณ์ว่า ETF จะได้รับการอนุมัติในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะหนุนแรงผลักดันขาขึ้นต่อไป

ในช่วงที่เขียนบทความราคา BTC ซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ 66,082.5 ดอลลาร์ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้น 6% ในรอบสัปดาห์ทำให้ผู้ถือ Bitcoin จำนวน 93% อยู่ในสถานะกำไร ทั้งนี้ข้อมูลจาก IntoTheBlock ได้บันทึกการพุ่งขึ้น 6.4% ของปริมาณการซื้อขายขนาดใหญ่ไปที่ 4.71 หมื่นล้านดอลลาร์ 

อย่างไรก็ตาม Davis เชื่อว่านักลงทุนรายย่อยเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่ตลาด และคาดว่าปรากฏการณ์ราคาในปัจจุบันเป็นเพียงยอดเขาน้ำแข็งเท่านั้น “คุณไม่มีทางรู้เลยว่าขาขึ้นครั้งนี้จะบ้าคลั่งขนาดไหน” เขากำลังบอกให้นักลงทุนมีความอดทนและคงสถานะของตน

แม้คาดว่าจะมีความผันผวนในระยะสั้นในทุกตลาด แต่โพสต์ข้อความของ Davis บ่งชี้ว่ามุมมองระยะยาวสำหรับ Bitcoin ยังคงเป็นบวกอย่างมาก เพราะปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการลดอุปทานลง ความต้องการของสถาบันที่เพิ่มขึ้น และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภครายย่อยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Davis ยังคงมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อ Bitcoin ด้วยการนำมาใช้งานในกระแสหลักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา: benzinga