<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชี้ Dogeverse คือ โปรเจกต์รายต่อไปที่จะประสบความสำเร็จตามรอย PEPE

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักเทรดคริปโตรายหนึ่งสร้างความฮือฮาให้กับวงการคริปโต หลังจากที่เขาสามารถกวาดผลกำไรมหาศาลจาก Pepe เหรียญมีมยอดนิยม ทำกำไรไปได้มากถึง 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางคนมองว่าเหรียญ Dogeverse (DOGEVERSE) จะกลายเป็นเหรียญมีมที่ประสบความสำเร็จตามรอย PEPE เป็นรายต่อไป

นักเทรดผู้โชคดี เปลี่ยนชีวิตจากเหรียญ PEPE

นักลงทุนรายหนึ่งประสบความสำเร็จจากการลงทุนใน PEPE โดยเขาเริ่มต้นซื้อเหรียญตั้งแต่ที่ราคายังไม่สูง เขาเริ่มต้นลงทุนในเดือนเมษายนเมื่อปีที่แล้ว ด้วยเงินลงทุนเพียง 3,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อเหรียญมีม PEPE จำนวน 4.9 ล้านล้านโทเค็น

ในเวลานั้น PEPE เป็นเพียงโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่แทบไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุนเหรียญมีม แต่เมื่อกระแสของเหรียญมีมเข้าครอบงำตลาด ส่งผลให้ราคาของเหรียญ PEPE เริ่มพุ่งสูงขึ้น

ปัจจุบันนักเทรดรายนี้ขาย PEPE ออกไปจำนวน 1.41 ล้านล้านโทเค็น

โดยคิดเป็นผลกำไรสูงถึง 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเขาเองยังคงมี PEPE เหลืออยู่อีก 3.5 ล้านล้านโทเค็น ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ดังนั้น ถ้าหากนักเทรดรายนี้ขายเหรียญ PEPE ทั้งหมด เขาจะได้กำไรโดยรวมสูงถึง 46 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว (ยังไม่ได้ขาย) ซึ่งคิดเป็นกำไรจากเงินทุนเพียง 3,000 ดอลลาร์เท่านั้น 

แม้ว่าผลตอบแทนเช่นนี้จะเปรียบเหมือน “การถูกล๊อตเตอรี่” ในวงการคริปโต แต่ผลตอบแทนดังกล่าวก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างความมั่งคั่งที่เหรียญมีมสามารถมอบให้กับนักลงทุนได้

PEPE ทำลายสถิติ! สร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่น่ามหัศจรรย์ใจอย่างยิ่งสำหรับ PEPE เนื่องจากความต้องการเหรียญที่พุ่งสูงขึ้นอย่างถล่มทลาย ส่งผลให้ ราคา PEPE พุ่งขึ้น 39% และแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ราคา $0.0000115 

โปรเจกต์นี้ดูเหมือนจะได้รับแรงหนุนจาก Keith Gill หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “Roaring Kitty ” ที่เคยปั่นหุ้น GameStop ซึ่งช่วยจุดประกายความสนใจใน “เหรียญมีม”

ในขณะที่รายงาน ราคา PEPE ลดลงมา 12% จากจุดสูงสุด  แต่ราคาของโทเค็นก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์สูงอยู่ ที่ประมาณ $0.0000101 

ถึงแม้ว่าปริมาณการเทรดโดยรวมจะลดลง แต่ปริมาณการซื้อขายแบบสปอตยังคงเพิ่มขึ้นที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงพอที่จะทำให้ PEPE กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีปริมาณการซื้อขายมากเป็นอันดับ 9 ของโลกเลยทีเดียว โดยมีปริมาณการซื้อขายเหรียญแซงหน้าคริปโตชื่อดังอย่าง Dogecoin (DOGE) และ XRP (XRP)

ในขณะที่จำนวนสัญญาคงค้างของ PEPE ในตลาดฟิวเจอส์ก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 114 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีนักเก็งกำไรเข้ามามีส่วนร่วมมากมาย

ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะยั่งยืนหรือไม่ แต่ตอนนี้ PEPE ก็กลายเป็นผู้นำในตลาดเหรียญมีมไปเรียบร้อยแล้ว

เหรียญมีมใหม่อย่าง Dogeverse จะสามารถเทียบชั้น Pepe ได้หรือไม่? นักวิเคราะห์เชื่อโอกาสเติบโตอาจมากถึง 100 เท่า

แม้ว่าสปอตไลต์จะส่องไสวไปที่ PEPE แต่นักวิเคราะห์บางคนก็มองว่า Dogeverse  จะเป็นดาวเด่นของเหรียญมีมเหรียญต่อไปได้เช่นกัน

โปรเจกต์ Dogeverse กำลังใช้ประโยชน์จาก 2 เทรนด์ที่กำลังมาแรง ได้แก่ เหรียญมีม (Memecoin) และ การทำงานข้ามเชน (Cross chain)

ความสามารถพิเศษของ Dogeverse คือ การ “กระโดดข้าม” เครือข่ายของบล็อกเชนที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าผู้ถือ DOGEVERSE จะสามารถย้ายโทเค็นของตนเองระหว่างบล็อกเชน 6 เชนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งเพื่อปลดล็อกการใช้งานบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ

ไม่ใช่แค่ความสามารถแบบ multi-chain เท่านั้น ที่ดึงดูดความสนใจของเทรดเดอร์

เพราะ Dogeverse ยังจูงใจผู้ถือโทเค็นด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงถึง 55% ต่อปีผ่านโปรโตคอลการ Stake

การผสมผสานระหว่างประโยชน์การใช้งานที่แท้จริง และการสร้างรอยยิ้มจากเหรียญมีม ช่วยให้ Dogeverse สามารถระดมทุนไปได้แล้วมากกว่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการ Presale หรือ การขายเหรียญล่วงหน้า

นักวิเคราะห์จาก Cryptonews คาดการณ์ว่า DOGEVERSE จะสามารถทำกำไรได้ถึง “100 เท่า” เมื่อมันถูกลิสต์บนกระดานเทรดคริปโตแบบ decentralized โดยคิดจากราคาขายพรีเซล $DOGVERSE ที่เริ่มต้นเพียง $0.00031 

ในขณะที่ Jacob Bury อินฟลูเอนเซอร์ยอดนิยม ก็ยกให้ DOGEVERSE เป็นอีกหนึ่งเหรียญมีมยอดนิยมที่เขาเลือกลงทุนในตอนนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นคำถามอยู่คือ Dogeverse จะสามารถแสดงพลังได้เช่นเดียวกับ PEPE ได้หรือไม่ 

ทั้งนี้ กระแสของโปรเจกต์ แบบ multi-chain ที่ไม่เหมือนใคร อาจเป็นกุญแจ สำคัญที่ทำให้ Dogverse กลายเป็นเหรียญมีมตัวต่อไปที่ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน

ไปยัง Dogeverse พรีเซลตอนนี้

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโตเคอร์เรนซีและโทเค็นดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์