ดูเหมือนว่าในปัจจุบันนักลงทุนจะเริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวของ Bitcoin ในฐานะราชาแห่งคริปโตเคอร์เรนซี หลังยังไม่สามารถทำราคากลับขึ้นไปทะลุ $70,000 ได้ประกอบกับกระแส Altcoin ที่กำลังมาแรงอย่างมากจากการอนุมัติ Spot ETH ETFs
อย่างไรก็ตามกราฟสายรุ้ง (Rainbow Chart) กลับเปิดเผยว่าขณะนี้ Bitcoin กำลังทำแพทเทิร์นเลียนแบบปี 2020 ในช่วงหลังการ halving ส่งผลให้นักลงทุนบางรายเชื่อว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณขาขึ้นของ Bitcoin
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่าหลังการ halving ครั้งที่ 3 (รอบที่แล้ว) Rainbow chart ได้เข้าสู่ช่วง “โซนซื้อ” ซึ่งโซนดังกล่าวจะอยู่เพียงไม่กี่เดือนเพียงเท่านั้นก่อนที่ราคา Bitcoin จะพุ่งทะยานเข้าสู่โซนสะสมและ HODL หมายความว่า นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับนักลงทุนที่จะซื้อ BTC ในราคาถูก
อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก CryptoQuant กลับพบว่า ในปัจจุบัน ผู้ถือเหรียญต่างทำการรีบขายเหรียญออกมา มากกว่าซื้อเหรียญเก็บไว้ เห็นได้จากการฝากเหรียญเข้าเว็บเทรดที่มีจำนวนมากขึ้น และจำนวนอุปทานเหรียญบนเว็บเทรดที่มีมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้แรงขายที่มากขึ้นย่อมส่งผลต่อราคา Bitcoin อย่างแน่นอน และสำหรับสาเหตุที่นักลงทุนต่างทำการขายเหรียญเป็นผลมาจาก การที่มีอินดิเคเตอร์หลายตัวบ่งบอกสัญญาณว่าเป็นขาลง ยกตัวอย่างเช่น MACD ขณะที่ ดัชนี The Relative Strength Index (RSI) นั้นลดลง หมายความว่าราคาอาจมีการปรับฐานลงมาในเร็ว ๆ นี้
AMBCrypto วิเคราะห์ว่าแรงขายที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลง โดยพบว่านักลงทุนไม่ได้เทรดตามกราฟ Bitcoin Rainbow เนื่องจาก aSORP (Adjusted Spent Output Profit Ratio) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ประเมินกำไรหรือขาดทุนโดยรวมของผู้ถือ Bitcoin ได้กลายเป็นสีแดง บ่งชี้ว่านักลงทุนจำนวนมากกำลังขายเหรียญเพื่อทำกำไร โดยสัญญาณนี้ในช่วงระหว่างกลางตลาดกระทิง อาจหมายถึงจุดสูงสุดของตลาดก็เป็นได้
ที่มา : ambcrypto