<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

BlackRock จ่ายเงินปันผลเกือบ 1.7 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนให้กับผู้ถือ Ethereumในกองทุน BUIDL 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากการตรวจสอบข้อมูลบน Etherscan ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับติดตามธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum พบว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลของ Ondo Finance  ชื่อ  “OUSD Instant Manager” เป็นผู้รับเงินปันผลรายเดือนของกองทุน BUIDL จำนวนมากที่สุด โดยได้รับไปประมาณ 42% ของเงินปันผล 

แพลตฟอร์ม Tokenization และ บริษัท Securitize ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการโอนสินทรัพย์ของ BlackRock รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า กองทุน BUIDL (USD Institutional Digital Liquidity) ของ BlackRock ได้จ่ายเงินปันผลรายเดือนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน เป็นสกุลเงินดิจิทัล Ethereum มูลค่าเกือบ 1.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 38% จาก 1.2 ล้านดอลลาร์ ในเดือนก่อนหน้า

ข้อมูลจาก Etherscan ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับติดตามธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum เปิดเผยว่า การจ่ายเงินปันผลกองทุน BUIDL ของ BlackRock เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา น่าจะดำเนินการผ่านธุรกรรมเพียงธุรกรรมเดียว  ธุรกรรมนี้มีค่าธรรมเนียมเครือข่าย Ethereum เพียง 0.034 ETH คิดเป็นเงินประมาณ 131.55 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่ามีค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำ  โดยธุรกรรมเดียวกันนี้ ได้กระจายโทเค็น BUIDL ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัล 11 แห่ง โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละกระเป๋าเงินได้รับโทเค็น BUIDL ประมาณ 151,735 โทเค็น

การโอนโทเค็นที่เกี่ยวข้องกับ USD Institutional Digital Liquidity Fund ของ BlackRock บน Ethereum (ข้อมูลจาก Etherscan)

แม้ว่ากองทุน BUIDL ของ BlackRock จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดผ่านธุรกรรมเดียว แต่จำนวนเงินปันผลที่แต่ละคนได้รับนั้นย่อมแตกต่างกัน ข้อมูลจาก Etherscan แสดงว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0x568 ได้รับโทเค็น BUIDL น้อยที่สุด เพียงแค่ 20,802 โทเค็น  

ในทางกลับกัน กระเป๋าเงินดิจิทัลของ Ondo Finance ที่มีชื่อว่า “OUSD Instant Manager” กลับได้รับโทเค็น BUIDL มากที่สุด โดยได้รับไปถึง 700,280 โทเค็น คิดเป็นประมาณ 42% ของเงินปันผลทั้งหมดในเดือนนี้ 

โดยบริษัท Ondo Finance เป็นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มโทเค็น RWA ปัจจุบันถือครองโทเค็น BUIDL อยู่ที่ 49,999,999 โทเค็น ซึ่งทำให้ Ondo Finance เป็นผู้ถือครองกองทุนรายใหญ่อันดับสี่

Jamie Finn ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Securitize กล่าวในอีเมลที่ส่งถึง Unchained ว่า “โทเค็น BUIDL เป็นสินทรัพย์พื้นฐานสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ อย่างที่เราเห็นจากกรณีของ Ondo และบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้ BUIDL เป็นรากฐานของผลิตภัณฑ์หลัก”

นอกจากนี้ Jamie Finn ยังกล่าวอีกว่า “ปัจจุบัน Tokenization กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีสินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (Real-World Assets – RWA) จำนวนมากที่ถูกแปลงเป็นโทเค็นออกสู่ตลาด”

มูลค่ารวมของโทเค็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นโทเค็นดิจิทัลทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบนิเวศคริปโตขณะนี้อยู่ที่ 1.45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 12.5% นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งกองทุน BUIDL ของ BlackRock มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 462.5 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของมูลค่ารวมทั้งหมดในปัจจุบัน ตามข้อมูลอ้างอิงมาจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์สินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (Real-World Assets – RWA) อย่าง rwa.xyz 

การจ่ายเงินปันผลเกือบ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ เกิดขึ้นสองเดือนหลังจากที่บริษัท Securitize Markets ยื่นคำขอ “ในนามของ BlackRock” เพื่อเป็นผู้ให้บริการสำหรับโปรเจกต์ Stable Treasury Endowment Program (STEP) ของ Arbitrum

โดยโปรเจกต์ STEP มีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความเสี่ยงของโทเค็น ARB จำนวน 35 ล้านโทเค็น โดยการนำไปลงทุนในสินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (Real-World Assets) ที่มีตราสารคลัง (Treasury bills) และตราสารตลาดเงิน (money market instruments) เป็นหลักประกัน

กิจกรรมต่าง ๆ ของ BlackRock ทั้งบนเครือข่ายบล็อกเชน และในฟอรัมการกำกับดูแล ชี้ให้เห็นว่า บริษัทสถาบันอย่าง BlackRock ไม่ได้แค่สนใจในคริปโตเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ในระบบนิเวศน์คริปโตอีกด้วย