<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

[บทสัมภาษณ์พิเศษ] วงในแฉยับ : เรื่องราวดำมืดของเหรียญ Shiba Inu ที่ไม่มีใครเคยรู้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทางสยามบล็อกเชน ได้รับข้อมูลที่น่าตกใจจากแหล่งข่าววงในที่ระบุว่าเหรียญ Shiba Inu ซึ่งเป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจซุกซ่อนเรื่องราวดำมืดเอาไว้เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขา

Martin และ Sveinn คือหนึ่งในบุคคลที่อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี Shiba Inu มาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ โดยระบุว่ามีประเด็นที่น่ากังวลหลายประการ 

ทั้งนี้เนื้อหาในบทความจะอ้างอิงมาจากบทสัมภาษณ์ของฝั่งที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายเท่านั้น ทางทีมให้ขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการทำความเข้าใจเนื้อหาที่จะนำเสนอ

ผู้ที่ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ประกอบไปด้วยนาย Martin ชายผู้ที่อยู่ร่วมกับคอมมูนิตี SHIB และคนไทยมาอย่างยาวนาน และนาย Sveinn ผู้ออกแบบโลโก้ปัจจุบันของเหรียญ SHIB ที่กล่าวอ้างว่า โลโก้ของเขาถูกนำไปใช้โดยกลุ่มคนที่ไม่หวังดีเพื่อแสวงหารายได้

จุดเริ่มต้น

Martin เล่าว่า เขาเริ่มต้นเข้ามาอยู่ในวงการคริปโตในสมัยที่เขายังอาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเริ่มจาก Bitcoin และเปลี่ยนมาเป็น Shiba Inu ตอนที่เขาเปลี่ยนมาอยู่ภาคเหนือ ซึ่งในตอนแรกคอมมูนิตี Shiba Inu ที่เขาช่วยดูแลก็เป็นไปได้ด้วยดี โดยพวกเขาได้จับมือร่วมกับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นชาวสวน และอื่น ๆ เพื่อพัฒนาเป็นชุมชนของ SHIB ชาวไทย ที่ทำให้เหรียญ SHIB มีส่วนร่วมและตัวตนบนโลกแห่งความเป็นจริง ผ่านการทำ shibainu cafe แห่งแรกของโลกและซอสพริก shibasco ในประเทศไทย ที่มีเป้าหมายจะเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งกับซอสชื่อดังอย่าง tabasco

ทั้งนี้ตัวของ Martin ได้มีการร่วมมือกับ Sveinn ผู้ออกแบบโลโก้เพื่อทำสิ่งดี ๆ ให้กับระบบนิเวศของ Shiba จนกระทั่งได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาสู่ Ecosystem ในภายหลัง ซึ่งนั่นก็คือหัวหน้าทีมพัฒนาหลักคนปัจจุบันอย่าง “Shytoshi Kusama” ผู้ไม่เปิดเผยตัวตน ที่จะเป็นหนึ่งในต้นตอของเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมด

คดีความระดับพันล้าน

Martin เปิดเผยว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาเจ็บป่วยอย่างรุนแรงเป็นสโตรกจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติจึงจำเป็นต้องถอนตัวออกมา ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงที่ Shytoshi เริ่มไต่เต้าขึ้นมามีบทบาทใน Ecosystem ของ Shiba Inu ทำให้ในปัจจุบันเขาเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องในคอมมูนิตี้มากที่สุด รวมถึงมีพลังอำนาจมากที่สุดด้วยเช่นกัน 

ซึ่งทั้งสองมีประเด็นกับตัวของ Shytoshi ว่าเป็นผู้ที่ละเมิดสิทธิงานศิลปะของพวกเขาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อชุมชน และมีการจด Trademark อย่างถูกต้องในหลายประเทศ ขณะที่ Shytoshi และทีมนำโลโก้ดังกล่าวไปใช้หารายได้ไม่ว่าจะเป็นจากตัวเหรียญเอง หรือการนำไปทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นร้านอาหารใหม่ในอิตาลีแทนที่จะมาสนับสนุนคนไทย

Sveinn กล่าวว่าเขาไม่คิดว่าโลโก้ที่เขาออกแบบจะมาถึงจุดนี้ โดยเขาออกแบบมันมาเพื่อช่วยเหลือคอมมูนิตีในขณะนั้น แต่แล้วผลงานของเขาก็กลับนำไปใช้หารายได้ ที่เขาคิดว่ามันควรจะถูกนำไปใช้ในสิ่งที่ดีกว่าเช่นการกุศล มากกว่านำมาใช้เป็นหน้าของโปรเจกต์ คริปโต และเขาระบุว่าแฟน ๆ กำลังบูชาไอดอลผิดคน เพราะตัวตนของ Shytoshi นั้นไม่ใช่คนดีเหมือนที่ใครหลายคนคิด

ปัจจุบัน Shiba Inu เป็นเหรียญคริปโตมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นลำดับที่ 13   รวมถึงเป็นเหรียญมีมที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่สองเป็นรองเพียงแค่ Dogecoin ทำให้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย และแม้แต่ตำรวจสากลก็ยังมีส่วนร่วมในเรื่องนี้อีกด้วย ทำให้ตัวของพวกเขากล่าวว่านักลงทุนกำลังตกเป็นเหยื่อของโปรเจกต์ pyramid scam สุดอันตราย เพราะจริง ๆ แล้ว Shib มีจุดกำเนิดมาจากแค่ผู้ก่อตั้ง Ryoshi , Sveinn และชุมชนที่ Martin เป็นกระบอกเสียงให้เพียงเท่านั้น 

Shytoshi และทีมกำลังดูถูกคนไทย

อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของ Martin เขาเคยระบุว่าในสมัยก่อนชุมชน SHIB ในไทยนั้นเป็นที่รู้จักกันดี และแม้แต่ตัวของ Shytoshi ก็ยังเคยออกมาสนับสนุนเช่นกันในช่วงแรก ทว่านับตั้งแต่มีปัญหากัน (ประมาณ 3 ปีที่แล้ว) ตัวของ Shytoshi และทีมก็ได้เลิกให้ความสนใจหรือโปรโมตชุมชน SHIB ในไทยไปดื้อ ๆ มิหนำซ้ำยังมีการว่าร้าย และล้อเลียนอีกต่างหาก 

นอกเหนือจากนั้นยังได้มีผู้มีส่วนรู้ร่วมคิดอีกทีมหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Shibwomen ที่พยายามแสดงออกถึงพลังหญิงในโลกของ Blockchain ซึ่ง martin ระบุว่าพวกเธอนั้นนอกเหนือจากจะขโมยโลโก้ไปใช้งานแล้วยังขโมยไอเดียไปอีกด้วย เพราะในไทยก็มีกลุ่มที่เป็น Shibwomen ของจริงอยู่แล้วที่ทำงานอย่างหนักและมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยกลุ่มดังกล่าวได้พยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้

ทั้งนี้ประเทศไทยได้มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อ Shiba Inu มาตั้งแต่สมัย Ryoshi โดย martin ระบุว่าในเอกสารบางส่วนของเจ้าตัว Ryoshi เองยังได้มีการกล่าวถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทำให้บ้านเรานั้นมีความพิเศษกว่าที่ใครหลายคนคิด มากไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่มีโลโก้ Shib ในปัจจุบันนอกเหนือจากซอสพริกนั้นเป็นสิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาทั้งหมด

เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดที่แท้จริง!

Shiba Inu เป็นเหรียญที่ถูกสร้างมาเพื่อชุมชนไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ใครบางคนควบคุม แต่ในปัจจุบันชายที่ชื่อ Shytoshi กลับมีบทบาทในโปรเจกต์อย่างมากถึงขนาดที่ว่าแทบจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับโปรเจกต์ ซึ่งจากการสัมภาษณ์เปิดเผยว่าตัวของ Shytoshi นั้นเข้ามาทีหลัง ไม่เหมือนกับตัวของ Sveinn ที่อยู่กับทีมพัฒนาดั้งเดิมมาแต่แรกในสมัยที่โลโก้เหรียญยังไม่เป็นแบบนี้ และตัวของ Shytoshi เป็นฝ่ายที่ขอร้องเข้ามายังพื้นที่นี้อีกต่างหากไม่ได้ถูกเชื้อเชิญมาแต่อย่างใด 

พวกเขาอ้างว่าตัวของ Shytoshi นั้นเป็นเพียงแค่วัยรุนเกรียนคีย์บอร์ดที่สแกมคนไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่นักพัฒนาจริง ๆ ด้วยซ้ำ และเขารู้อีกด้วยว่าตัวของ Shytoshi เป็นใครชื่ออะไรอยู่ที่ไหนรวมถึงพร้อมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้รับรู้ได้ด้วย ทว่าทางทีมงานต้องขอสงวนในจุดนี้เอาไว้

Shiba Inu ยังคงน่าเชื่อถืออยู่ไหม

พวกเขากล่าวว่าในปัจจุบันนักพัฒนากำลังสนใจแต่ onchain-scam และการขาย NFT มากกว่ามาสนับสนุน ecosystem มีการบล็อกช่องทางการติดต่อของพวกเขาทั้งหมดและสกัดกั้นไม่ให้ “เสียง” ของพวกเขาได้เล็ดลอดออกมายังสาธารณะ ซึ่งพวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้เรื่องนี้ไม่เงียบไป ทว่าแม้จะมีสื่อบางเจ้านำเสนอเรื่องราวแต่ก็ยังไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก เพราะไม่มีใครอยากให้ข่าวเสียหายเป็นที่รู้ทั่วกัน ซึ่งมันจะส่งผลต่อเงินของนักลงทุนจำนวนมหาศาลที่เชื่อมั่นในโปรเจกต์ SHIB

อย่างไรก็ตามโปรเจกต์ Shiba Inu ไม่ได้เป็นโปรเจกต์ที่แย่ แต่สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนคือโครงสร้างการบริหารของทีมพัฒนาชุดนี้ ซึ่งถ้าหากตัวของ Shytoshi ถอนตัวและถูกแทนที่ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพกว่านี้ โปรเจกต์ SHIB จะมีอนาคตที่สดใสมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวเจาะลึกกว่านี้สามารถรอชมได้ในรูปแบบรายการในช่องยูทูปสยามบล็อกเชน ได้ในเร็ว ๆ นี้