ขาขึ้นของ Bitcoin ยังไม่จบ และตัวเลขก็ไม่โกหก เราได้อยู่ในช่วงขาขึ้นนี้มา 624 วันแล้ว และแม้ว่าผลกำไรที่ผ่านมาจะไม่ถูกใจเท่าไรแต่ว่าหากเทียบกับสิ่งที่เราเคยเห็นในอดีตขาขึ้นครั้งนี้ยังไปได้อีกไกล
ตลาดกระทิงก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2022 ราคา Bitcoin ทะยานขึ้น 20 เท่าจากจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุด ครั้งนี้เราทำได้เพียง 3.5 เท่า ซึ่งหมายความว่ายังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับ BTC ที่จะพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยที่ Bybit และ BlockScholes ได้ค้นข้อมูล และพวกเขากำลังบอกว่า ขาขึ้นของตลาดกระทิงนี้ยังมีอยู่อีก 350 วัน หรือเกือบหนึ่งปีเต็มที่ Bitcoin อาจทะลุจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง
พฤติกรรมตลาดที่ไม่เหมือนใครของ Bitcoin
ตลาดกระทิงในปัจจุบันกำลังทำอะไรที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้ โดยปกติ เมื่อราคา Bitcoin ขึ้น เราจะเห็น Ethereum และ altcoin อื่นๆ ติดตามมาด้วย แต่ไม่ใช่ครั้งนี้
ราคาของ BTC ค่อยๆ เพิ่มขึ้นโดยไม่ลากตลาด altcoin ไปด้วย แต่ Ethereum และส่วนที่เหลือค่อนข้างคงที่ และ Bitcoin เองก็ยังไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ติดต่อกันอย่างที่เราคาดหวังไว้
แต่นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่วิธีที่เราคุ้นชินเสียเท่าไร ในตลาดกระทิงก่อนหน้านี้ จุดสูงสุดของ Bitcoin มักจะมาพร้อมกับ altcoins ที่พุ่งสูงขึ้น โดยตลาดโดยรวมจะตื่นตัวก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง
ความจริงที่ว่าเราไม่เห็นพฤติกรรมแบบนี้อาจบ่งบอกได้ว่าตลาดกระทิงนี้ยังไม่ถึงจุดสูงสุดที่แท้จริง
การพักฐานของ Bitcoin ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีการซื้อขายในช่วงที่แคบแทนที่จะพุ่งขึ้น หมายความว่าตลาดกำลังสะสมพลังในการไต่ขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิม
นอกจากนี้ BlockScholes ยังชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของ Bitcoin กับปัจจัยมหภาคบางอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งนี้เช่นกัน ในอดีต BTC เจริญเติบโตได้ดีเมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและเมื่อนโยบายการเงินผ่อนคลายลง แต่ตอนนี้เงื่อนไขทั้งสองอย่างนี้ไม่มีผล แต่ Bitcoin ก็ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งถ้าดูตามความจริงกฎเก่าๆ ที่เคยนำมาใช้ได้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ความต้องการของสถาบันผลักดันตลาด
อีกหนึ่งจุดหักมุมในตลาดกระทิงรอบนี้คือบทบาทของความต้องการของสถาบัน จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ ETF แบบ Spot ทำให้การถือครอง BTC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสถาบันกำลังเข้ามาลงทุน และราคาของ Bitcoin ก็เป็นไปได้ดีโดยทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นปี
แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไปหลังจากกลางเดือนมีนาคม การไหลเข้าของเงินทุนเข้าสู่ ETF เหล่านี้ก็แห้งเหือดไปอย่างกะทันหัน และการเติบโตของราคาก็หยุดชะงักลง เห็นได้ชัดว่ากระแสเงินใหม่จากสถาบันอาจเป็นแค่เรื่องชั่วคราว
การขาดความต้องการใหม่จากผู้เล่นรายใหญ่เหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา halving ของ Bitcoin ในวันที่ 20 เมษายน 2024
การ halving ซึ่งโดยปกติจะผลักดันราคาของ Bitcoin ให้สูงขึ้นเนื่องจากอุปทานที่ลดลง ไม่มีผลกระทบอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ แต่การเคลื่อนไหวของราคากลับเงียบลง ซึ่งสะท้อนถึงการหยุดซื้อของสถาบัน
แต่นี่คือสิ่งที่ Bybit และ BlockScholes เชื่อคือ bull run ไม่จำเป็นต้องจบลงเพียงเพราะความต้องการของสถาบันชะลอตัวลง Bitcoin มีประวัติการดำเนินงานที่ดีหลังจากเหตุการณ์ halving และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน
ความเชื่อมั่นไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
ตอนนี้ อารมณ์ในตลาดค่อนข้างมืดมน ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นแสดงให้เห็นว่านักเทรดรู้สึกค่อนข้างกังวล โดยมีความระมัดระวังมากขึ้นจากการผันผวนในตลาดอนุพันธ์
แต่ประวัติศาสตร์บอกเราว่าความเชื่อมั่นต่ำไม่ได้หมายความว่า bull run จะสิ้นสุดลงเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น วัฏจักรปี 2021 พลังแฮชของ Bitcoin ได้รับผลกระทบอย่างมาก ความเชื่อมั่นลดลง และทุกคนคิดว่า bull run ได้สิ้นสุดลงแล้ว
แต่แทนที่จะพัง ตลาดกลับดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทำจุดสูงสุดใหม่ก่อนที่จะขึ้นสูงสุดในที่สุด นี่อาจเป็นสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ ความเชื่อมั่นลดลงอีกครั้งซึ่งไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณถึงจุดสิ้นสุดของขาขึ้น
ข้อมูลของ BlockScholes ชี้ให้เห็นว่าอารมณ์ที่หดหู่ในปัจจุบันอาจเป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราว ตลาดมีความยืดหยุ่น และมันสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้เพื่อดำเนินแนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้
ที่มา: cryptopolitan