Mt. Gox กระดานเทรดคริปโตเคอเรนซี่ชื่อดังที่ปิดตัวไป ได้ทำการโอน Bitcoin มูลค่ากว่า 75 ล้านดอลลาร์ (2,569 ล้านบาท) ไปยัง Bitstamp ตามข้อมูลจาก Arkham Intelligence ซึ่งคาดว่าการโอนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ที่กำลังจะมาถึง
ซึ่งหลังจากการโอนครั้งนี้เกิดขึ้น ตลาดคริปโตฯ มีการตอบสนองอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการที่ราคา Bitcoin (BTC) มีการปรับลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ Ethereum (ETH) กลับมีราคาขยับขึ้นเล็กน้อย ส่วนคริปโตเคอเรนซี่อื่น ๆ เช่น Binance Coin (BNB) และ Solana (SOL) ก็ปรับลดลงเช่นกัน
การโอน Bitcoin มูลค่ามหาศาลไปยัง Bitstamp นี้ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาด เนื่องจากหากมีการขาย Bitcoin ในปริมาณมาก ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคาเหรียญได้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา Mt. Gox ยังได้โอน Bitcoin จำนวนมากไปยังกระเป๋าที่ไม่ระบุชื่อ ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าใครเป็นเจ้าของกระเป๋านั้นกันแน่ ในขณะที่ Bitstamp ได้รับเลือกจากผู้จัดการมรดกของ Mt. Gox ให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการการจ่ายเงินเหล่านี้ โดยได้เริ่มมีการจ่ายบางส่วนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทว่าในขณะที่ความก้าวหน้าในการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ แต่ความกังวลในหมู่นักเทรดเกี่ยวกับการเทขาย Bitcoin ในตลาดนั้นยังคงมีอยู่ แม้ว่าหลายเจ้าหนี้จะยืนยันว่าจะถือครอง Bitcoin ต่อไป แต่ความกลัวว่า Bitcoin จะถูกเทขายออกมามากก็ยังคงมีอยู่เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก CryptoQuant แสดงให้เห็นว่าเจ้าหนี้ของ Mt. Gox ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือครอง Bitcoin (HODL) มากกว่าที่จะขาย ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อตลาด
ในขณะที่ Alex Thorn หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy Digital เชื่อว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่มีความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Bitcoin และศักยภาพในระยะยาว ทำให้มีแนวโน้มที่จะเก็บรักษาสินทรัพย์เหล่านี้ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อมั่นทั่วไปในหมู่ผู้สนับสนุน Bitcoin เกี่ยวกับอนาคตของสกุลเงินนี้
แม้ว่าผลกระทบจากการโอน Bitcoin ครั้งล่าสุดของ Mt. Gox ต่อตลาดยังคงไม่แน่นอน แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวยังคงถือครอง Bitcoin ในจำนวนมาก และการแจกจ่ายเงินเหล่านี้ยังคงมีผลต่อความเสถียรภาพของตลาดคริปโตฯ โดยเฉพาะกับราคา Bitcoin ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลอย่างไรต่อภูมิทัศน์คริปโตฯ ในวงกว้าง
ที่มา: Coinpaprika