<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Standard Chartered ประกาศเปิดให้บริการดูแลสินทรัพย์คริปโตใน UAE ด้วย BTC และ ETH

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารข้ามชาติ Standard Chartered ได้ออกมาประกาศเปิดให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยเริ่มให้บริการคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นสองสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด

โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน ธนาคารได้เผยว่าจะให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านความร่วมมือกับ Brevan Howard Digital ซึ่งเป็นแผนกคริปโตเคอร์เรนซีของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Brevan Howard การให้บริการครั้งนี้มีการประกาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อธนาคารลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Dubai International Financial Centre (DIFC) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษใน UAE

ธนาคารยังได้เปิดเผยอีกว่า บริการนี้ได้รับใบอนุญาตจาก Dubai Financial Services Authority (DFSA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของ DIFC แม้จะเริ่มต้นด้วย BTC และ ETH แต่ Standard Chartered ตั้งเป้าที่จะขยายขอบเขตไปยังสินทรัพย์คริปโตอื่น ๆ และให้บริการในศูนย์การเงินอื่น ๆ เพิ่มเติม

ในขณะที่ Bill Winters ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Standard Chartered กล่าวถึงบริการใหม่นี้ว่าเป็นก้าวสำคัญของธนาคารในธุรกิจดูแลสินทรัพย์ และยังเชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเขากล่าวว่า:

“เรามีความเชื่อมั่นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโครงสร้างการเงิน”

โดย Standard Chartered เป็นหนึ่งในธนาคารที่มุ่งเน้นเข้าสู่ธุรกิจคริปโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังบริษัทได้ร่วมมือกับ Animoca Brands ซึ่งเป็นบริษัท Web3 เพื่อเข้าร่วมในโครงการ Sandbox ของ Hong Kong Monetary Authority (HKMA) ที่มุ่งเน้นไปที่การออกเหรียญ Stablecoin

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ธนาคารได้จับมือกับ Crypto.com เพื่อให้บริการฝากถอนเงิน Fiat ในกว่า 90 ประเทศ โดยเริ่มต้นที่ UAE ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถฝากและถอนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ, ดีแรห์มสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยูโรบนแพลตฟอร์มการซื้อขาย

ซึ่งการที่บริษัทเข้ามาพัฒนาธุรกิจคริปโตในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในการยอมรับคริปโตนั้น ถือเป็นการตอกย้ำความพยายามของ Standard Chartered เพราะจากการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา Henley & Partners พบว่า UAE เป็นประเทศที่มีการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากสิงคโปร์และฮ่องกง

และในดัชนี Henley Crypto Adoption Index 2024 UAE ทำคะแนนได้ 41.8 ซึ่งใกล้เคียงกับฮ่องกง โดยประเทศนี้มีคะแนนสูงในด้านปัจจัยทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม และเทคโนโลยี

ที่มา: Cointelegraph