รายงานการวิจัยล่าสุดจาก JPMorgan (JPM) ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของ Bitcoin (BTC) และค่า Hashrate ได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเดือนกันยายน แม้ตลาดคริปโตจะเผชิญความผันผวนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขุดและกำไรขั้นต้น (Gross Profit) กลับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่นักขุด Bitcoin กำลังเผชิญ เนื่องจากต้นทุนการขุดยังคงสูง ขณะที่ผลตอบแทนจากการขุดลดน้อยลง
ในขณะเดียวกัน Hashrate ซึ่งเป็นค่าที่แสดงถึงพลังการประมวลผลรวมที่ใช้ในการขุดและประมวลผลธุรกรรมบนบล็อกเชนที่ใช้ระบบ Proof-of-Work ได้ขยับเพิ่มขึ้น 2% จากเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ 643 Exahashes ต่อวินาที (EH/s) เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน การเพิ่มขึ้นของ Hashrate บ่งบอกถึงการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในหมู่นักขุด แม้ว่ารายได้จากการขุดจะลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการเหมืองขุดรายย่อยต้องเผชิญกับความกดดันทางการเงินมากขึ้นในระยะยาว
JPMorgan ประเมินว่า นักขุดได้รับรายได้จาก ‘รางวัลบล็อกรายวัน’ (Daily Block Reward) เฉลี่ยอยู่ที่ 42,100 ดอลลาร์ต่อ EH/s ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งลดลง 6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
นักวิเคราะห์ Reginald Smith และ Charles Pearce เขียนในรายงานว่า “เราประเมินว่ากำไรขั้นต้นจาก Daily Block Reward ลดลง 6% เมื่อเทียบรายเดือน (m/m) มาอยู่ที่ 16,100 ดอลลาร์ต่อ EH/s (อัตรากำไรขั้นต้นที่ 38.4%) ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในขณะที่รายงาน”
นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมยังอยู่ในระดับต่ำ โดยไม่เกิน 5% ของ ‘รางวัลบล็อก’ และ มีความผันผวนต่อปี อยู่ที่ 44% ในเดือนที่แล้ว ลดลงมาจาก 62% ในเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดรวมของบริษัทเหมืองขุด Bitcoin ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ จำนวน 14 แห่ง มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% มาอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์ นำโดย Hut 8 (HUT) ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดด้วยมูลค่าการเติบโต 21% ในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ CleanSpark (CLSK) มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดด้วยการลดลง 13%
- ที่มาข่าว:coindesk
- ที่มาภาพ:swanbitcoin