บนดาวอังคารไม่มีตู้เอทีเอ็มหรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับธุรกรรมทางการเงินเองก็ไม่มี สิ่งนี้ก่อให้เกิดความท้าทายที่สำคัญสำหรับชาวอาณานิคมในอนาคตที่อาจต้องการสั่งพิซซ่าโดยใช้ Bitcoin หรือ Trade NFT ลิงสุดเฟี้ยวกับผู้ที่ชื่นชอบ NFT บนโลก
วิธีแก้ปัญหานี้อาจมาในรูปแบบของการวิจัยล่าสุดในเชิงคอมพิวเตอร์ Neuromorphic
การสื่อสารนอกโลกแบบดั้งเดิมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้พลังงานมากซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าเป็นเวลาหลายนาทีแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ก็ตาม เมื่อชาวอาณานิคมในอนาคตเดินทางไปยังดาวอังคาร คอมพิวเตอร์บนเรือของพวกเขาจะสูญเสียความสามารถในการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ Earthbound แบบเรียลไทม์อย่างรวดเร็ว
เมื่อมนุษย์ไปถึงดาวอังคาร ระบบการสื่อสารของพวกเขาจะเกิดความล่าช้าสูงสุดประมาณ 22 นาที ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์กับโลกในขณะนั้น ทั้งในการส่งและรับข้อมูล
แม้ว่า 44 นาทีอาจฟังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องความเสื่อมของสัญญาณ การรบกวนจากรังสี และความเสียหายของข้อมูลที่ต้องจัดการอีก
ระบบการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบ Neuromorphic (Neuromorphic computing)
กลับมาบนโลกอีกครั้งเทคโนโลยีบนโลกของเราทำงานบนระบบที่เรียกว่า Cloud computing เครื่องที่เชื่อมต่อเครือข่ายเกือบทุกเครื่อง ตั้งแต่ iPhone นับพันล้านเครื่องที่ใช้งานไปจนถึง super computer ที่ทรงพลังที่สุดก็ใช้รูปแบบการประมวลผลหรือคำนวณข้อมูลระยะไกล
Neuromorphic computing ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ใช้ข้อมูลจำนวนมากโดยใช้การจดจำรูปแบบแบบเรียลไทม์ โดยพื้นฐานแล้วพวกมันถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสมองของมนุษย์ พวกเขาใช้ระบบของเซลล์ประสาทที่ประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำแทนที่จะใช้ CPU แบบเดิม ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่มีความหน่วงต่ำมาก
สิ่งนี้ทำให้ชิปคอมพิวเตอร์ Neuromorphic มีความเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ที่การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายถึงการใช้ฮาร์ดแวร์บนอุปกรณ์นั้นเอง ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ศูนย์วิจัยใต้ทะเลลึก, อวกาศและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ
น่าเสียดายที่ชิปประเภทหนึ่งที่เรียกว่า self-compliant นั้นใช้วัสดุที่ไม่สามารถคาดเดาได้จากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง แม้จะมีคำมั่นสัญญาที่ดีในการออกแบบ แต่ข้อบกพร่องนี้หมายความว่าบางครั้งชิปเหล่านี้อาจถ่ายโอนข้อมูลอย่างไม่อาจคาดเดาได้
เมื่อไม่นานมานี้ทีมนักวิจัยในเกาหลีใต้ได้เผยความก้าวหน้าในการพัฒนาชิปเหล่านี้ ฃและจากการวิจัยของพวกเขาสามารถเอาชนะข้อจำกัดนี้ได้แล้ว ด้วยการพัฒนาเพิ่มเติม สถาปัตยกรรมชิปประมวลผลแบบ neuromorphic สามารถวางรากฐานสำหรับการปฏิวัติการประมวลได้
บล็อกเชนบนดาวอังคาร
การทำธุรกรรมบล็อกเชนบนโลกเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่ายสำหรับผู้ใช้ปลายทาง แต่เทคโนโลยีที่สนับสนุนธุรกรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นการคำนวณแบบกระจายอำนาจ ต้องใช้หลายโหนดที่ทำงานพร้อมกัน คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ส่วนใหญ่สามารถทำหน้าที่เป็นโหนดได้ และในบางกรณี คริปโตก็ยังสามารถขุดได้โดยใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม หากโครงสร้างพื้นฐานระยะไกลทั้งหมดถูกถอดออกไป รวมถึงแหล่งพลังงาน Earthbound มันจะเป็นไปไม่ได้ในการขุดสกุลคริปโตหรือทำธุรกรรมบนบล็อกเชนอย่างรวดเร็ว การสร้างโครงสร้างพื้นฐานนี้ขึ้นใหม่บนดาวอังคารตามที่มีอยู่บนโลกในปี 2024 อาจใช้เวลานานหลายทศวรรษหรือนานกว่านั้น
ตามที่ Elon Musk ได้กล่าวมนุษย์จะมาถึงดาวอังคารก่อนช่วงเวลานั้นและแม้ว่าการซื้อขายคริปโตอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรก แต่ในที่สุดพวกเขาก็จำเป็นต้องทำธุรกรรมที่เชื่อถือได้กับโลก
คอมพิวเตอร์ Neuromorphic ถูกสร้างขึ้นให้ตอบโจทย์สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวโดยเฉพาะ การทำงานคู่ขนานกับคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม ช่วยให้ชาวอาณานิคมบนดาวอังคารสามารถดำเนินการประมวลผลแบบไร้ขอบเขต ซึ่งโดยปกติจะต้องใช้การเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์กับทรัพยากรระยะไกลและโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูง
ตามทฤษฎีแล้ว อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบธรรมดาที่มีชิป self-compliant ของคอมพิวเตอร์ neuromorphic ที่สอดคล้องกับตัวเองสามารถให้ระบบอัตโนมัติแบบเรียลไทม์และการประมวลผลข้อมูลสำหรับเครือข่ายบล็อกเชนที่ปรับขนาดได้บนดาวอังคาร สิ่งนี้จะทำให้ชาวอาณานิคมสามารถนำบล็อกเชนที่อิงจากโลกติดตามไปด้วยได้
หากไม่มีการประมวลผลแบบ neuromorphic edge ธุรกรรมบล็อกเชนจะต้องเริ่มต้นบนดาวอังคาร ประมวลผลบนโลก ส่งกลับไปยังดาวอังคารเพื่อยืนยัน ledger และจากนั้นส่งกลับมายังโลกเพื่อยืนยันอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่าธุรกรรมบล็อกเชนแต่ละรายการอาจใช้เวลาหลายวันในการส่งข้อมูลไปมาระหว่างโหนด
ที่มา : Cointelegraph