เพื่อแลกกับเงินกู้มูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์วางแผนปรับเปลี่ยนกฎหมายที่บังคับให้ธุรกิจท้องถิ่นต้องรับชำระเงินด้วย Bitcoin ตามรายงานของ Financial Times โดยอ้างแหล่งข่าววงใน
โดยการเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้การรับชำระด้วย Bitcoin เป็นทางเลือกสำหรับธุรกิจ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์จะสามารถบรรลุข้อตกลงเงินกู้มูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจะนำไปสู่การปลดล็อกเงินกู้จากธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาอินเตอร์-อเมริกันอีกอย่างละ 1 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Financial Times เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจไม่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา IMF ได้ย้ำคำแนะนำให้เอลซัลวาดอร์จำกัดขอบเขตของความทะเยอทะยานด้าน Bitcoin และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อกฎหมาย Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์มีผลบังคับใช้ในปี 2021 ประเทศนี้ได้กลายเป็นชาติแรกที่ประกาศรับรองคริปโตเคอร์เรนซีนี้เป็นเงินตราตามกฎหมาย
รายงานระบุว่า “IMF คัดค้านการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลของเอลซัลวาดอร์ อ้างถึงความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินและความซื่อสัตย์สุจริต และได้เรียกร้องให้ [ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์] หยุดยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินตราตามกฎหมาย”
ในเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดี Nayib Bukele แห่งเอลซัลวาดอร์ ผู้สนับสนุนกฎหมายรับรอง Bitcoin เป็นเงินตราตามกฎหมาย ยอมรับว่าการทดลองทางการเงินของประเทศประสบผลผสม และ Bitcoin ได้รับการยอมรับในประเทศอย่างจำกัด
เพื่อรับเงินกู้จาก IMF ประเทศนี้ยังตกลงที่จะลดการขาดดุลงบประมาณ ผ่านกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชัน และเพิ่มทุนสำรอง ตามรายงานของ Financial Times
ณ เดือนพฤษภาคม 2024 เอลซัลวาดอร์ครอบครอง Bitcoin จำนวน 5,750 เหรียญ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 570 ล้านดอลลาร์ ราคา Bitcoin อยู่ที่ 99,259.99 ดอลลาร์
ที่มา: theblock