<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Movement (MOVE) คืออะไร? โปรเจกต์เลเยอร์ 2 บน Ethereum ที่กำลังเป็นที่จับตามอง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้ Binance เว็บเทรดอันดับต้น ๆ ของโลกได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเพิ่มเหรียญ Movement (MOVE) เข้าในกระดานเทรดแบบสปอต แต่สำหรับใครที่สงสัยว่าเหรียญ Movement คืออะไร และทำไม Binance ถึงตัดสินใจลิสต์เหรียญนี้ บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบพร้อมกัน 

Movement คืออะไร?

Movement เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum โดยเพิ่มเทคโนโลยีของตัวเองเข้าไป เพื่อทำให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือการแก้ปัญหาที่หลายคนเจอในบล็อกเชน เช่น การขยายระบบให้รองรับคนจำนวนมาก เวลาในการทำธุรกรรมที่ล่าช้า การทำงานร่วมกันระหว่างระบบต่าง ๆ และการป้องกันความปลอดภัยที่ยังมีช่องโหว่

นอกจากนี้ ภาษาการเขียนโปรแกรมของ Movement ที่ชื่อว่า “Move” เคยถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดย Meta (บริษัทเจ้าของ Facebook) เพื่อใช้ในโปรเจกต์ Diem/ Libra Blockchain จุดเด่นของภาษา Move คือช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายขึ้น 

จุดเด่นของ Movement 

ความเข้ากันได้

Movement จะเชื่อมต่อ MoveVM เข้ากับระบบนิเวศของ Ethereum ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้าง DApps ที่ใช้งานได้ทั่วทั้งบล็อกเชน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนา 

ความปลอดภัย

Move  ถูกสร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยมันจะใช้ formal verification ซึ่งเป็นกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่า Smart contracts จะทำงานตามที่กำหนดไว้ โดยวิธีการนี้ช่วยลดช่องโหว่ความปลอดภัย เช่น การโจมตีแบบ reentrancy (การโจมตีแบบเรียกซ้ำฟังก์ชันเดิม) หรือการสร้างโทเค็นโดยไม่ตั้งใจ

ความรวดเร็ว

หนึ่งในปัญหาใหญ่ของบล็อกเชนในปัจจุบันคือการรอให้คำสั่งธุรกรรมเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ซึ่งระบบ fast-finality ของ Movement จะทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ในหลักวินาที แทนที่จะเป็นหลักนาที หรือชั่วโมงจากระบบเดิม ๆ 

กลไกการทำงานของ Movement

โปรเจกต์ Movement มีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างที่ช่วยให้การทำงานบนบล็อกเชนเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และยืดหยุ่นมากขึ้น:

  1. MoveVM (เครื่องเสมือน)
    เปรียบเสมือน “เครื่องยนต์” ของระบบ ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ภาษาโปรแกรม Move และโค้ดที่รองรับ Ethereum ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนอยากสร้างเกมหรือแอปพลิเคชันการเงิน ก็สามารถใช้ MoveVM ในการทำงานบนบล็อกเชนได้อย่างราบรื่น
  2. Decentralized Shared Sequencer (DSS)
    ส่วนนี้ช่วยให้การประมวลผลธุรกรรมเป็นธรรมและไม่ถูกแทรกแซง เช่น หากคุณต้องการโอนเงินไปหาเพื่อน DSS จะช่วยให้ธุรกรรมของคุณสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและไม่มีการล่าช้าหรือถูกขัดขวาง แม้ว่าจะมีการใช้งานเครือข่ายอย่างหนาแน่นก็ตาม
  3. Move Rollups
    เป็นโซลูชัน Layer 2 ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชัน ช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งการประมวลผลธุรกรรม การจัดเก็บข้อมูล และอื่น ๆ ได้ตามต้องการ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสามารถใช้ Move Rollups เพื่อทำให้การชำระเงินในแอปเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่ต้องพึ่งระบบของ Layer 1 โดยตรง

Decentralized Shared Sequencer (DSS)

DSS ของ Movement จะทำหน้าที่เหมือน “ผู้ควบคุมการจราจร” โดยช่วยจัดการธุรกรรมให้เป็นธรรม รวดเร็ว และไม่มีใครสามารถเซ็นเซอร์ได้ ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่:

  1. ต้านการเซ็นเซอร์
    ไม่มีองค์กรใดสามารถบล็อกหรือจัดลำดับความสำคัญของธุรกรรมได้ เช่น หากคุณกำลังส่งเงิน ธุรกรรมของคุณจะได้รับการดำเนินการโดยไม่มีการแทรกแซง
  2. ความเป็นธรรม
    ป้องกันปัญหา “front-running” หรือการที่บางคนแทรกตัวในคิวเพื่อได้ประโยชน์ก่อน เช่น ซื้อขายคริปโตก่อนที่คำสั่งของคุณจะสำเร็จ
  3. การทำงานร่วมกันได้
    ทำให้การโอนทรัพย์สินและการทำงานข้ามเครือข่ายเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น การเชื่อมโยงระหว่างระบบที่ใช้ Move และ Ethereum

Move Rollups: เครือข่าย Layer 2 ที่ปรับแต่งได้

Move Rollups เป็นระบบ Layer 2 ที่ Movement ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันเฉพาะ เช่น DeFi เกม หรือระบบซัพพลายเชน ตัวอย่างความยืดหยุ่นที่น่าสนใจ:

  1. กลไกการประมวลผลธุรกรรมที่เลือกได้
    นักพัฒนาสามารถเลือกระบบที่เหมาะสม เช่น Optimistic Rollups (เน้นความเร็ว) หรือ ZK-Rollups (เน้นความปลอดภัย) หรือใช้ระบบประมวลผลเร็วของ Movement เอง
  2. การจัดเก็บข้อมูลที่ปรับแต่งได้
    นักพัฒนาสามารถเลือกบริการที่เหมาะสม เช่น Celestia (ระบบเก็บข้อมูลแบบแยกส่วน) หรือ Ethereum EIP-4844 blobs (ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ประหยัดกว่า)

ตัวอย่างเช่น:

  • หากคุณสร้างเกมบล็อกเชน คุณสามารถใช้ Rollups ที่ช่วยลดเวลารอของผู้เล่นให้เร็วที่สุด
  • หากคุณพัฒนาระบบ DeFi คุณสามารถเลือกโซลูชันที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดสำหรับธุรกรรมทางการเงิน

กรณีการใช้งานโทเคน MOVE

Movement มีโทเคนประจำเครือข่ายที่เรียกว่า MOVE ซึ่งนอกจากจะใช้สำหรับการเทรดและแจกเป็นรางวัล Airdrop แล้ว ตัวเหรียญยังมีประโยชน์หลัก ๆ อีก 4 ด้านดังนี้:

  1. การ Stake
    ผู้ใช้สามารถนำโทเคน MOVE มาทำการ Stake เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายและสนับสนุนการประมวลผลธุรกรรมแบบกระจายอำนาจผ่านระบบ Decentralized Shared Sequencer (DSS) 

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการสนับสนุนแอปพลิเคชันในระบบนิเวศ คุณสามารถ Stake โทเคนใน Move Arena เพื่อช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพให้แอปเหล่านั้นได้

  1. ค่าธรรมเนียม
    MOVE ใช้เป็นโทเคนสำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและการเรียกใช้ Smart Contract บนเครือข่าย Movement พูดง่าย ๆ ก็คือหากคุณต้องการโอนเงินหรือใช้งานแอปพลิเคชัน DeFi บน Movement คุณจะใช้ MOVE เป็น “ค่าบริการ” ในการดำเนินการ
  2. การกำกับดูแล
    ผู้ถือโทเคน MOVE มีสิทธิ์โหวตลงคะแนนเสียงเพื่อกำหนดทิศทางของเครือข่าย เช่น การอัปเกรดระบบหรือการตัดสินใจในโครงการสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากเครือข่ายต้องการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ผู้ถือ MOVE สามารถโหวตสนับสนุนหรือคัดค้านตามความเห็นของตน
  3. Cross-chain Liquidity
    MOVE ช่วยให้การโอนสินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายที่ใช้ภาษา Move และ Ethereum เป็นไปอย่างราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการย้ายเหรียญจากแอปพลิเคชันบน Move ไปยัง Ethereum โทเคน MOVE จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางช่วยให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ข้อมูลโทเคน MOVE

MOVE เป็นโทเคนที่ทำงานบนมาตรฐาน ERC-20 ซึ่งหมายความว่าโทเคนนี้ถูกสร้างบนเครือข่าย Ethereum และสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่รองรับ ERC-20 ได้ โทเคน MOVE มีอุปทานสูงสุดอยู่ที่ 10,000 ล้านโทเคน และในตอนนี้มีอุปทานหมุนเวียนอยู่ใน Binance ประมาณ 22% ของทั้งหมด

สำหรับคู่เทรด MOVE ที่เปิดให้ใช้งานบน Binance มีให้เลือกหลายคู่ เช่น

  • MOVE/ BNB
  • MOVE/BTC
  • MOVE/FDUSD
  • MOVE/ USDT

โดยโทเคนนี้เริ่มเปิดให้เทรดอย่างเป็นทางการบน Binance ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา 
 
ที่มา : Binance