<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อนาคตของ SEC และวงการคริปโตจะเป็นอย่างไรต่อ ? หลัง Gary Gensler ลาออกจากตำแหน่ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังการลาออกของ Gary Gensler ประธาน SEC คนปัจจุบัน และการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของ Paul Atkins ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก Donald Trump

Paul Atkins อดีตกรรมการ SEC (ในปี 2002-2008) และเป็นสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของ The Digital Chamber ตั้งแต่ปี 2020 ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้า SEC คนใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่เน้นให้คริปโตและนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Alison Mangiero จาก Proof of Stake Alliance กล่าวถึง Paul Atkins ว่า “เขาเข้าใจคริปโตอย่างแท้จริง” และเชื่อว่า SEC ภายใต้การนำของเขา จะมีเป้าหมายที่แตกต่างจากยุคของ Gary Gensler

การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้าง SEC

การลาออกของ Gary Gensler  และ Jaime Lizárraga เปิดโอกาสให้คณะกรรมาธิการที่เหลือ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน 3 คน ได้แก่ Mark Uyeda, Hester Peirce และ Paul Atkins เข้ามาบริหารงาน

อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดว่า ไม่สามารถมีกรรมาธิการจากพรรคเดียวกันเกิน 3 คน ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งกรรมาธิการใหม่ ที่อาจมาจากพรรคอื่น เช่น พรรคเดโมแครต พรรคเสรีนิยม หรือเป็นพรรคอิสระ

นโยบายคริปโตในยุค Gensler และความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

ในยุค Gary Gensler  มีการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวด โดยถือว่า คริปโตเคอเรนซีส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเป็นหลักทรัพย์ และเรียกร้องให้บริษัทคริปโตจดทะเบียนกับ SEC ซึ่งหลายบริษัทมองว่า ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับนิติบุคคลแบบดั้งเดิม ที่แตกต่างจากอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล  

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจนำไปสู่การพิจารณานโยบายใหม่ เช่น การนำระบบ Staking มาใช้ใน ETF ที่เกี่ยวกับคริปโต โดยก่อนหน้านี้มีความพยายามรวมการ Staking เข้ากับกองทุน Spot Ethereum ETFs แต่ถูก SEC ปฏิเสธ

Mangiero จาก POSA เสนอว่า SEC ในยุคใหม่ ควรพิจารณาเปิดโอกาสให้มีผลิตภัณฑ์ที่รวมระบบ Staking เพื่อเพิ่มมูลค่าและทางเลือกสำหรับนักลงทุน

หนึ่งในกฎระเบียบสำคัญ ที่อาจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโตคือ Regulation ATS ซึ่งเสนอในปี 2022 เพื่อขยายความหมายของคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์” และอาจบังคับให้โปรเจกต์ DeFi จดทะเบียนกับ SEC 

Ron Hammond จาก Blockchain Association กล่าวว่า SEC อาจพิจารณากฎระเบียบนี้ในรูปแบบใหม่ หรือยกเลิกไปทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการลำดับความสำคัญของทีมบริหารใหม่

SEC อาจเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ ๆ ที่สามารถทำได้ในขอบเขตขององค์กร ในขณะที่รอกฎหมายจากสภาคองเกรส เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านนโยบาย

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับ SEC และวงการคริปโตในสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่ทิศทางใหม่ ที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมและสนับสนุนการเติบโตของตลาดคริปโตมากขึ้น 

ที่มา :  theblock