เช้าวันนี้ (8 มกราคม) ตลาดคริปโตกลับมานองเลือดอีกครั้ง หลังผลการรายงานด้านเศรษฐกิจในสหรัฐฯ สร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ดิ่งลงหลุดกรอบ $100,000 อย่างรุนแรง พร้อมฉุดราคาของเหรียญ Altcoin อื่น ๆ ให้ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
นักวิเคราะห์มองว่าการปรับตัวลงในครั้งนี้เกิดจากความกังวลต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจยังคงอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไป ซึ่งขัดกับความคาดหวังของตลาดที่มองว่าดอกเบี้ยอาจเริ่มลดลงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025
จากข้อมูลในกราฟจะเห็นได้ว่าราคาของ Bitcoin เริ่มไหลลงมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงของเมื่อวาน ก่อนที่ผลรายงานด้านเศรษฐกิจจะถูกประกาศ ซึ่งหลังจากนั้นราคา Bitcoin ก็ร่วงอย่างแรงจนไปแตะจุดต่ำสุดที่ $96,181 เรียกได้ว่านักลงทุนแทบตั้งตัวไม่ทัน
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรงมาจากตัวเลขตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงเกินคาด ซึ่งสะท้อนถึงจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้น สร้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า Fed อาจจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวของ Jerome Powell ประธาน Fed เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ที่ย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยอาจยังต้องคงอยู่ในระดับสูงต่อไป เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม
สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดคริปโต โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มักมีความอ่อนไหวต่อข่าวเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน เห็นได้จากนักเทรดในตลาดฟิวเจอร์สสูญเสียเงินกันเป็นมูลค่ากว่า $385 ล้าน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการเปิด position ทั้งสองฝั่ง โดยที่ฝั่ง long เสียหากมากที่สุด คิดเป็นความเสียหายประมาณ $212 ล้าน ตามข้อมูลของ Coinglass
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายที่ $97,061 ลดลง 4.85% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ที่มา : Decrypt