<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

Bitcoin ETF ฟื้นตัวแรง! หลังมีเงินไหลเข้าครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ รวม 744 ล้านดอลลาร์

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ spot ในสหรัฐฯ กลับมามีเงินไหลเข้าสุทธิอีกครั้งในรอบห้าสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา กองทุนมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิรวม 744.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์ และถือเป็นการไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่หก ตามข้อมูลจาก SoSoValue

เงินไหลเข้าส่วนใหญ่มาจากกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ซึ่งรับเม็ดเงิน 537.5 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) ของ Fidelity ที่มีเงินไหลเข้า 136.5 ล้านดอลลาร์

โดยการกลับมาของเม็ดเงินไหลนี้ เกิดขึ้นหลังจากช่วงขาลงของตลาดคริปโตและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงเพิ่มขึ้น และความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อต้นปี Bitcoin ETF เคยมีเงินไหลเข้าสูงสุดที่ 1.96 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มกราคม และ 1.76 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ต่อมา โดย Bitcoin ทำสถิติราคาสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 มกราคม ซึ่งตรงกับวันสาบานตนของ Donald Trump

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น Bitcoin ร่วงลงแตะระดับ 78,000 ดอลลาร์ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 87,343 ดอลลาร์ในปัจจุบัน

แม้ว่า Bitcoin จะเริ่มฟื้นตัว แต่ Ethereum ETF ยังคงเผชิญกับกระแสเงินไหลออก โดยในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 มีนาคม กองทุน Ethereum มีเงินไหลออกสุทธิ 102.9 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน iShares Ethereum Trust ETF (ETHA) ของ BlackRock มีเม็ดเงินไหลออกมากที่สุดที่ 74 ล้านดอลลาร์

แม้ว่า Ethereum จะสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้ แต่กระแสเงินทุนไหลออกยังคงดำเนินต่อไปเป็นสัปดาห์ที่สี่

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยบวกสำหรับ Ethereum เมื่อกองทุน BUIDL ของ BlackRock ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์โลกแห่งความเป็นจริง (Real-World Assets – RWA) แบบโทเคน ได้เพิ่มการถือครอง Ethereum ขึ้นเป็น 1.15 พันล้านดอลลาร์ จาก 990 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันต่อ Ethereum ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักสำหรับการโทเคนสินทรัพย์

แม้บรรยากาศตลาดจะเริ่มดีขึ้น โดยดัชนี Crypto Fear & Greed Index ปรับตัวจาก 32% เป็น 45% แต่บริษัท QCP Capital ยังคงเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังต่อความเป็นไปได้ของการปรับฐานเพิ่มเติม โดยระบุว่า ‘การปรับขึ้นภาษีที่จะมีผลในวันที่ 2 เมษายน อาจส่งผลกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง’

ที่มา: Cointelegraph

ข่าวต่อไป