ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมแห่งยุค ด้วยความสามารถรอบด้านที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานในหลายด้าน ไม่เว้นแม้แต่ในวงการคริปโต! หากใช้อย่างถูกวิธี มันสามารถช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มของตลาดคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้นักลงทุนและนักเทรดเตรียมความพร้อมและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ดังนั้นในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดู “4 ขั้นตอนง่าย ๆ” ที่จะช่วยเปลี่ยน ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยวิเคราะห์ตลาดคริปโตสุดอัจฉริยะ ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล ไปจนถึงเทคนิคการปรับแต่ง Prompt เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เฉียบคมและแม่นยำยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 : การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์
ข้อมูลนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้ผลลัพธ์ออกมาตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งถ้าข้อมูลที่ได้มานั้นไม่น่าเชื่อถือจะส่งผลทำให้การวิเคราะห์ของ ChatGPT ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นผู้ใช้ควรมีแหล่งข้อมูลที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งข้อมูลด้านราคา , ความเคลื่อนไหวของเจ้ามือ , อารมณ์ของนักลงทุนในตลาด ซึ่งสามารถหาได้จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ เช่น Coingecko , Glassnode , Santiment เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 2 : จัดเรียงข้อมูล
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วให้ผู้ใช้งานทำการจัดเรียงข้อมูลเพื่อทำให้ตัวของ ChatGPT สามารถสกัดข้อมูลไปวิเคราะห์ได้แม่นยำขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการจัดเรียงวันที่ของข้อมูลให้เป็นไปตามลำดับ-นำข้อมูลซ้ำออก-เติมส่วนที่ขาดหาย หรือเพิ่มข้อมูลซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่อยากให้ AI ช่วยวิเคราะห์เข้ามา
ขั้นตอนดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะหากไม่มีการจัดเรียงข้อมูลที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้จะเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลทางเทคนิคจำพวก MACD หรือ RSI
ขั้นตอนที่ 3: ปรับแต่ง Prompts ให้ละเอียดขึ้น
ถัดมาในส่วนของการ Prompts ChatGPT ให้ผู้ใช้งานเลือกที่จะออกคำสั่งที่ละเอียดมากกว่าการออกคำสั่งง่าย ๆ เช่น “ Bitcoin มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือไม่” ซึ่งเราอาจลองเปลี่ยนเป็น “วิเคราะห์ข้อมูลกราฟ Bitcoin RSI และ MACD ในช่วงระหว่าง มีนาคม 2024 จนถึง มีนาคม 2025 พร้อมหาช่วงเวลาที่มีสัญญาณขาขึ้นกำลังจะมีแนวโน้มทะลุแนวต้าน” เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การ Prompt ได้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีความแตกต่าง เช่น การ Prompt แบบเจาะจงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะทำให้ได้คำตอบที่ละเอียดกว่า หรือการออกคำสั่งแบบสรุปประเด็น จะทำให้ข้อความที่ได้อ่านง่ายขึ้น เป็นต้น ซึ่งยิ่งเรามีการปรับแต่ง Prompt ดีเท่าไรผลที่ได้ก็จะดีขึ้นเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น “ช่วยสรุปว่าอารมณ์ของนักลงทุนที่มี Bitcoin บนโซเซียล เปลี่ยนไปอย่างไรในเดือนธันวาคม 2024 และเน้นย้ำผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา”
หรือ “ระบุกรณีที่ RSI ของ Bitcoin ที่ลดลงต่ำกว่า 50 ระหว่างเดือนธันวาคม 2024 ถึงมกราคม 2025 อธิบายว่าการลดลงแต่ละครั้งกินเวลานานเพียงใด และอธิบายการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น”
อย่างไรก็ตามหากป้อนคำสั่งไปแล้วแต่ผลลัพธ์ออกมายังไม่เป็นที่น่าพอใจ ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูล ระบุระยะเวลาให้ชัดเจนขึ้น พร้อมขอแนวทางการวิเคราะห์ที่ละเอียดกว่านี้ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้แม่นยำขึ้น
ขั้นตอนที่ 4 : ตรวจทานผลลัพธ์
แม้ว่าผู้ใช้จะได้รับคำตอบจาก ChatGPT แล้วในขั้นตอนที่ 3 แต่ต้องไม่ลืมว่า ChatGPT ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ และยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ฐานข้อมูลที่อาจไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ หรือการวิเคราะห์ที่อาจคลาดเคลื่อนได้ในบางกรณี
ดังนั้น ผู้ใช้ควรนำคำตอบจาก ChatGPT ไปเปรียบเทียบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เพื่อความแม่นยำและรอบด้านในการตัดสินใจ เช่น หาก AI วิเคราะห์ว่า “ตอนนี้เป็นช่วงขาขึ้นของตลาด” โดยอ้างอิงจากดัชนี RSI ผู้ใช้ก็ควรตรวจสอบข้อมูล RSI ล่าสุดจากแหล่งจริง เช่น TradingView หรือ CoinMarketCap เพื่อยืนยันว่าแนวโน้มดังกล่าวตรงกับสถานการณ์จริงหรือไม่
เมื่อทราบข้อมูลแล้วให้ผู้ใช้ทำการทดสอบดูกับการดูการวิเคราะห์จากนักเทรดท่านอื่น ส่วนในกรณีของทิศทางขออารมณ์ในตลาดให้อาศัยการอ่านข่าวสารว่า โลกกำลังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง
สุดท้ายนี้ นักเทรดไม่ควรเชื่อข้อมูลจาก ChatGPT 100% เพราะตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าตัวของมันเป็นเพียงแค่เครืองมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น และผู้ใช้ควรมีการจัดการกับความเสี่ยงของตนเองไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจุดซื้อขาย การตั้ง Stop loss และการกระจายความเสี่ยง เป็นต้น
ที่มา : Cointelegraph