World Liberty Financial (WLFI) ของครอบครัวทรัมป์ กำลังสร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการคริปโตอีกครั้ง หลังจากประกาศเปิดตัว Stablecoin ของตัวเอง ในชื่อ USD1 บนเครือข่าย Ethereum และ BNB Chain ได้ไม่นาน ซึ่งการมาของ USD1 ครั้งนี้ ทำให้หลายคนจับตามองเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม มีบุคคลที่พยายามฉวยโอกาสหาประโยชน์จากกระแสดังกล่าว โดยปล่อยของเลียนแบบออกมา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของกระเป๋าเงินสำหรับผู้ใช้งานคริปโต
โดย Best Wallet ($BEST) กระเป๋าเงิน Web3 ชั้นนำ แบบ Non-custodial ได้เสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ พร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ปรับแต่งให้เข้ากับตลาด ในปัจจุบัน
ซึ่ง Best Wallet ไม่ได้แค่เก็บเหรียญอย่างปลอดภัย แต่ยังมาพร้อมเครื่องมือช่วยให้การเทรดทำได้ง่ายขึ้น เสริมโอกาสทำกำไรในตลาด
ในปัจจุบันเหรียญ $BEST ซึ่งเป็นเหรียญดั้งเดิมของโปรเจกต์ กำลังอยู่ในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น มีราคาอยู่ที่ 0.024475 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และกำลังจะเข้าสู่เฟสถัดไปในอีกไม่ถึงสองวัน โดยราคาจะขยับขึ้นอีก
เหรียญ $BEST ที่ได้มา ยังสามารถนำไป stake ในโปรโตคอลของ Best Wallet ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อปี (APY) สูงสุดถึง 138% แม้ว่า ทีมงานของโปรเจกต์ยังไม่ได้ประกาศวันจบโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นแบบชัดเจน แต่ตอนนี้สามารถทำยอดระดมทุนพุ่งทะลุ 11.37 ล้านดอลลาร์
เหรียญ crypto ของทรัมป์อาจเป็น Scammer
นักวิจัยด้านบล็อกเชน เริ่มสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเหรียญชื่อ World Liberty Financial USD1 (USD1) ซึ่งถูกใช้งานอยู่ทั้งบนเครือข่าย Ethereum และ BNB Chain
ที่น่าสังเกตคือ การโอนเหรียญบางส่วน มีความเชื่อมโยงกับที่อยู่ที่เกี่ยวข้องกับ Wintermute และ BitGo ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของสถาบัน
World Liberty Financial ก็เคยพูดถึงแผนการเปิดตัว Stablecoin อย่าง USD1 ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ DeFi ที่วางไว้ สำหรับไตรมาส 4 ของปี 2024 ซึ่งพอมาเชื่อมกับข้อมูลบนบล็อกเชน ก็ยิ่งทำให้หลายคนมั่นใจว่า USD1 อาจจะเป็นโปรเจกต์ที่ถูกพูดถึงในวงการอยู่ตอนนี้
Changpeng Zhao (CZ) อดีต CEO ของ Binance ก็เพิ่งออกมายืนยันไม่นานมานี้ว่า สัญญา smart contract ของ USD1 ถูกนำไปใช้งานจริงบน BNB Chain ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ยิ่งทำให้การคาดเดาต่าง ๆ มีน้ำหนักมากขึ้น
Stablecoins ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของโลกคริปโต เพราะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระบบการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) เข้ากับโลกการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) โดยการมอบความมั่นคงด้านมูลค่าให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ช่วยให้การย้ายเงินเข้า–ออกจากคริปโตที่มีความผันผวนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น และเพราะเหตุนี้เอง Stablecoins จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นทั้งสำหรับนักเทรดรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
ในตอนนี้ เรากำลังเห็นภาพของการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างบริษัทฟินเทคและสถาบันการเงินที่ต้องการเข้ามาชิงพื้นที่ในตลาด stablecoin โดยเฉพาะในกลุ่มการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ยังมีช่องว่างให้เติบโต
ขณะเดียวกัน ความชัดเจนด้านกฎระเบียบของ Stablecoins ก็เริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ตามพัฒนาการของตลาด ส่งผลให้โครงการใหม่ ๆ ไหลทะลักเข้ามา รวมถึงโครงการที่มีเบื้องหลัง เชื่อมโยงกับครอบครัวทรัมป์ ผ่านโปรโตคอล DeFi อย่าง USD1 ด้วย
แม้ว่าเหรียญ USD1 จะยังอยู่ในช่วงทดลอง และยังไม่มีการเปิดให้ซื้อขายอย่างเป็นทางการตามที่ CZ อดีตซีอีโอของ Binance กล่าวไว้ แต่ในตอนนี้มีเหรียญประมาณ 3.5 ล้านโทเคนหมุนเวียน อยู่ใน Ethereum และ BNB Chain ซึ่งเพียงพอจะสร้างแรงกระเพื่อมในวงการ
ซึ่งเมื่อกระแสมาแรง ก็ย่อมดึงดูดผู้เล่นหน้าที่พยายามออกเหรียญลอกเลียนแบบเพื่อเกาะกระแสและหากำไรจากความสนใจที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กลโกงลักษณะนี้เป็นการเตือนใจว่า ความเสี่ยงในโลกคริปโตยังคงมีอยู่ตลอดเวลา และเป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่จะต้องหมั่นอัปเดตข้อมูล ศึกษาอย่างจริงจัง และที่สำคัญที่สุด ปกป้องกระเป๋าเงิน Web3 ของตัวเองให้ปลอดภัย
Best Wallet มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการหลอกลวง และการปลอมแปลงเหรียญที่อาจเกิดขึ้น
Best Wallet ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง สำหรับผู้ใช้งานคริปโตที่ต้องการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ในยุคที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในฐานะกระเป๋าเงินแบบ Non-custodial อย่าง Best Wallet ทำให้ผู้ใช้งานเป็นเจ้าของคีย์ส่วนตัวและควบคุมทรัพย์สินของตนเองได้ 100% โดยผสานเทคโนโลยี MPC-CMP ของ Fireblocks ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยล้ำสมัยที่แบ่งคีย์ออกเป็นหลายส่วนแบบเข้ารหัส ช่วยลดโอกาสที่ใครจะเจาะระบบเข้ามาได้ แม้ส่วนหนึ่งจะถูกเจาะ ระบบก็ยังคงป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อคีย์หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางนี้แตกต่างจากการเก็บสินทรัพย์ไว้ใน Exchange แบบเดิม ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ กรณีของเว็บเทรด Bybit ในดูไบ ที่เพิ่งเผชิญกับการแฮ็กครั้งใหญ่
Best Wallet ไม่เพียง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ยังช่วยให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อกับบล็อกเชนโดยตรง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเหรียญในพอร์ตอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ Best Wallet ยังมาพร้อม DEX ในตัว ที่ให้ผู้ใช้งาน สามารถซื้อขายคริปโตได้ทันทีจากแอปโดยไม่ต้องผ่านแพลตฟอร์มภายนอก
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงการหลอกลวง เช่น โทเคนปลอมอย่าง $USD1 ที่ระบาดช่วงนี้ Best Wallet จึงได้พัฒนาเครื่องมือ Upcoming Tokens ที่จะคัดกรองและนำเสนอโปรเจกต์ที่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยแล้วเท่านั้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ซึ่งโปรเจกต์ที่มีการตรวจสอบสัญญา smart contract แบบครบถ้วน และได้รับการแนะนำผ่าน Upcoming Tokens ก็มีตั้งแต่ Solaxy ($SOLX) ซึ่งเป็น Layer-2 ตัวแรกบน Solana ไปจนถึง โปรเจกต์เหรียญที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานด้วยรางวัล Bitcoin แบบพาสซีฟอย่าง BTC Bull Token ($BTCBULL)
แม้ว่า Best Wallet จะอัดแน่นไปด้วยระบบความปลอดภัยที่รัดกุม แต่การติดตามข้อมูลข่าวสารก็ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทีมงานของ Best Wallet จึงสื่อสารกับชุมชนผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X โดยแชร์ทั้งเคล็ดลับการจัดการกระเป๋าเงิน กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง และแนวโน้มตลาดที่น่าจับตา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรักษาทรัพย์สินของตัวเองได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
คุณสมบัติของเหรียญ $BEST
เหรียญ $BEST เป็นหัวใจหลักของระบบนิเวศ Best Wallet โดยทำหน้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง และปลดล็อกความสามารถในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ภายในแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มรูปแบบ
หนึ่งในข้อได้เปรียบของการถือครองเหรียญ $BEST คือ ผู้ใช้งานจะได้รับ อัตราค่าธรรมเนียมที่ดีที่สุด ในการทำธุรกรรม พร้อมทั้งสิทธิ์ในการใช้ฟีเจอร์เพิ่มเติมด้วยต้นทุนที่คุ้มค่ากว่าเดิม
การซื้อขายผ่าน DEX ภายในแอปก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า หากใช้เหรียญ $BEST
นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญยังสามารถนำเหรียญ $BEST ไป stake ผ่านระบบรวบรวมการ staking ของ Best Wallet เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับการ staking เหรียญทั่วไป
และยิ่งไปกว่านั้น Best Wallet ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรในวงการ iGaming หลายราย ทำให้ผู้ถือ $BEST ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะ
$BEST ยังถือเป็นส่วนสำคัญในระบบนิเวศ Best Wallet ที่กำลังขยายตัว ซึ่งขยายออกไปนอกเหนือจากแอปกระเป๋าเงิน และ DEX เพื่อรวมบริการใหม่อย่าง Best Card บัตรเดบิตที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
Best Card มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโลกการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) เข้ากับโลกคริปโตแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ Best Wallet เป็นโซลูชันแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และอาจกลายเป็นคู่แข่งของ World Wallet ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Sam Altman

สำหรับผู้ที่จัดการทรัพย์สินในกระเป๋าเงินหลายใบ Best Wallet จะทำให้การนำเข้าและรวมเงินเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากรองรับหลายเครือข่าย โดยล่าสุดได้ขยายขอบเขตออกไปนอกเหนือจาก Ethereum ไปจนถึงเครือข่ายอย่าง Bitcoin และเร็ว ๆ นี้ก็กำลังจะรวม Solana เข้ามาอีกด้วย
ผู้ใช้งานใหม่สามารถดาวน์โหลด Best Wallet ได้จาก Google Play หรือ Apple App Store
ติดตามชุมชน Best Wallet บน X, Telegram และ Discord
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Best Wallet เพิ่มเติม ได้แล้ว
เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
---|---|---|
1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | |
2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | |
3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | |
4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | |
5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | |
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | |
7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรัยด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | |
8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | |
9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | |
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ |
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์