ปัจจุบันนักเทรดคริปโตส่วนใหญ่กำลังอยู่ในภาวะรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการประกาศมาตรการภาษีรอบใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หรือที่เรียกกันว่า “Liberation Day” ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างชัดเจน
ด้านราคา Bitcoin ยังคงสามารถยืนเหนือระดับ 83,000 ดอลลาร์ได้ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ล่าสุดมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 83,172 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.8% ในช่วง 24 ชั่วโมง (ข้อมูลเวลา 23:27 น. ตามเวลาสหรัฐฯ) ส่วนราคา Ether ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,837 ดอลลาร์
ส่วนคริปโตตัวอื่น ๆ เช่น XRP, Solana, BNB, Dogecoin และ Cardano ราคาก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่มากพอที่จะสร้างแนวโน้มที่ชัดเจน
นักวิเคราะห์จาก Presto Research ระบุว่า ตลาดคริปโตยังคงนิ่งและไม่รีบร้อน เนื่องจากนักลงทุนต่างรอฟังรายละเอียดของมาตรการภาษีจากทรัมป์ก่อนว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดมากแค่ไหน
การประกาศนโยบายภาษีของทรัมป์ในครั้งนี้ หรือที่เรียกว่า วันปลดปล่อย (Liberation Day) คาดว่า จะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 เมษายน อาจจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้าเต็มรูปแบบทั่วโลก ตามรายงานของ The Guardian ซึ่งยิ่งทำให้ตลาดทุน รวมถึงตลาดคริปโตมีความเปราะบางมากยิ่งขึ้น
ที่น่าจับตามองคือ ไตรมาสแรกของปี 2025 นับเป็นช่วงเวลาที่ราคา Bitcoin ทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 โดยราคาปรับตัวลงจากระดับสูงสุดกว่า 108,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม ลงมาต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการบังคับใช้มาตรการภาษีทางการค้าต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน
นอกจากนี้ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดที่ประกาศออกมา ก็ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed อาจยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างเห็นตรงกันว่า แม้นโยบายด้านคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งผลบวกในระยะยาว แต่การคาดหวังว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นทันทีหลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้งนั้นอาจเร็วเกินไป โดยตลาดคริปโตยังคงต้องรอให้มีการดำเนินนโยบายอย่างชัดเจนก่อน ซึ่งหากมีความแน่นอนมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่สอง และ Fed ส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมจะลดดอกเบี้ย ก็มีโอกาสที่ราคา Bitcoin จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังควรระมัดระวังไว้ด้วย เนื่องจากหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนหรือ Fed ยังคงชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ราคา Bitcoin ก็อาจจะมีการปรับตัวลดลงได้อีก จึงจำเป็นต้องติดตามปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
ที่มา : theblock