เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐฯ) คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาได้เดินหน้าผลักดันร่างกฎหมาย STABLE Act เพื่อเสนอให้สภาผู้แทนราษรพิจารณา ส่งผลให้กรอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin เข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สมาชิกสภานิติบัญญัติก็จะสามารถดำเนินการควบรวมร่างทั้งสองฉบับให้เป็นร่างกฎหมายฉบับเดียว ซึ่งจะนำไปสู่ขั้นตอนการอนุมัติขั้นสุดท้าย โดยที่พรรครีพับลิกัน รวมถึงทรัมป์ตั้งเป้าหมายว่ากฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม
แม้สมาชิกจากพรรคเดโมแครตจำนวนไม่น้อยกว่า 6 ราย ต่างเห็นชอบกับร่างกฎหมายดังกล่าวของรีพับลิกัน แต่บางฝ่ายกลับยังตั้งขอสงสัยถึงความเกี่ยวข้องของทรัมป์ที่มีต่ออุตสาหกรรมคริปโต และตัวของ Stablecoin
ปัจจุบันครอบครัวของทรัมป์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในโปรเจกต์ WLFI ที่เพิ่งประกาศสร้าง Stablecoin สกุลใหม่อย่าง USD1 ซึ่งนั่นยังไม่รวมถึงประวัติอันโชกโชนของทรัมป์ในด้านการออกคอลเลกชัน NFT และเหรียญมีม Trump
Maxine Waters สมาชิกพรรคเดโมแครตระดับอาวุโสในคณะกรรมการ ได้ย้ำเตือนคณะกรรมการให้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ซึ่งอาจมีการใช้อำนาจจากการเป็นประธานาธิบดีเพื่อทำให้ครอบครัวของเขาร่ำรวยมากยิ่งขึ้น
Stephen Lynch สมาชิกพรรคเดโมแครตอีกราย กล่าวเสริมว่า ทรัมป์ไม่เหมือนกับผู้ออกเหรียญคนอื่น ๆ เพราะเขาไม่ใช่บริษัทแต่เป็นประธานาธิบดี ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะยืมมือหน่วยงานรัฐ หากธุรกิจที่เขาประกอบกิจการอยู่ประสบกับอุปสรรค พวกเขาก็มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ความกังวลของเดโมแครตจะมีน้ำหนัก แต่นั่นไม่ได้ทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวต้องหยุดชะงักลง โดยขั้นตอนถัดไปตัวของทรัมป์วางแผนที่จะลงนามในมาตรการสนับสนุนคริปโตจากรัฐสภาเป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของ มติที่ยกเลิกกฎของกรมสรรพากร (IRS) ที่มุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ DeFi ทว่าทรัมป์เองยังไม่ได้ประกาศกำหนดการดังกล่าวแต่อย่างใด
ที่มา : Coindesk