ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกประสบภาวะเงินทุนไหลออกรวมกว่า 240 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะกองทุนที่เน้น Bitcoin ซึ่งเสียหายหนักที่สุดถึง 207 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลจากนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต
แม้จะเผชิญแรงเทขายตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ผลิตภัณฑ์ลงทุนใน Bitcoin ยังรักษาการไหลเข้าสุทธิปีนี้ไว้ที่ระดับบวก 1.3 พันล้านดอลลาร์ โดยมูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในกองทุนคริปโตทั้งหมดอยู่ที่ 132.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8% จากสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงแรงฟื้นตัวจากการปรับตัวขึ้นของราคาแม้จะมีการถอนเงินออก
โดย Grayscale เป็นผู้จัดการกองทุนที่เผชิญเงินไหลออกมากที่สุดถึง 95 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย iShares ETF ที่ 56 ล้านดอลลาร์ Bitwise 31 ล้านดอลลาร์ และ ARK 21Shares อีก 20 ล้านดอลลาร์
มีเพียงไม่กี่บริษัทที่สวนกระแส เช่น Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund ที่มีเงินไหลเข้าเพิ่ม 10 ล้านดอลลาร์ และ 21Shares AG ที่รับเพิ่มอีก 7 ล้านดอลลาร์
ในเชิงภูมิศาสตร์ สหรัฐฯ ครองแชมป์เงินไหลออกที่ 210 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยเยอรมนี 17.7 ล้านดอลลาร์ และสวิตเซอร์แลนด์ 8.3 ล้านดอลลาร์ ขณะที่แคนาดา บราซิล และออสเตรเลียกลับมีเงินไหลเข้าเล็กน้อย
Ethereum ก็ตามมาติด ๆ ด้วยเงินไหลออก 37.7 ล้านดอลลาร์ แม้จะยังมีกระแสบวกปีนี้ที่ 279 ล้านดอลลาร์ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวม 9.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วน altcoin อย่าง Solana และ Sui ก็ถูกเทขายเช่นกัน ขณะที่ XRP สวนกระแสด้วยการไหลเข้า 4.5 ล้านดอลลาร์

แม้จะมีแรงขายในคริปโตโดยตรง แต่หุ้นกลุ่ม blockchain ยังได้รับความสนใจ โดยมีเงินไหลเข้า 8 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด สะท้อนว่านักลงทุนบางส่วนอาจมองว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโต แทนที่จะถือครองเหรียญโดยตรง
การไหลออกของเงินทุนในคริปโตในช่วงนี้ สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโลกหลังมีการปรับนโยบายทางการค้า โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของสินทรัพย์ยังถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก ที่ดัชนี MSCI World ติดลบถึง 8.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ที่มา: Cryptopolitan