<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

Kraken จับมือ Mastercard เตรียมเปิดทางใช้ Bitcoin ชำระเงินในร้านค้ากว่า 150 ล้านแห่งทั่วโลก

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Mastercard บริษัทการชำระเงินระดับโลก ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับเว็บเทรดคริปโตชื่อดัง Kraken เพื่อผลักดันให้ Bitcoin และคริปโตกลายเป็นสกุลเงินที่สามารถนำมาใช้จ่ายจริงในชีวิตประจำวัน โดยในความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถนำคริปโตมาใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าที่รับ Mastercard ได้มากกว่า 150 ล้านแห่งทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในสหราชอาณาจักรและยุโรป

เว็บเทรดคริปโต Kraken ที่มีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 15 ล้านคนทั่วโลกจะใช้โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของ Mastercard ในการเปิดตัวทั้งบัตรเดบิตแบบจริง และแบบดิจิทัลที่ผูกกับยอดคริปโตในบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้จะสามารถนำ Bitcoin, Stablecoin หรือคริปโตอื่น ๆ ไปใช้ซื้อของ เหมือนใช้บัตรเดบิตแบบดั้งเดิม

Scott Abrahams รองประธานบริหารฝ่ายพันธมิตรระดับโลกของ Mastercard กล่าวว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า Mastercard มุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรม เพื่อขยายศักยภาพของการชำระเงินดิจิทัล

เว็บเทรดคริปโต Kraken ยังเปิดเผยว่า ฟีเจอร์ Kraken Pay ที่เปิดให้โอนเงินแบบไร้พรมแดนด้วยคริปโตหรือเงินเฟียต กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
ในเวลาเพียง 3 เดือนหลังเปิดตัว ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 200,000 คน ที่ลงทะเบียนใช้งานผ่าน “Kraktag” เพื่อใช้ส่งเงิน เหมือนการส่งข้อความ

David Ripley ซีอีโอร่วมของ Kraken กล่าวว่า คริปโตกำลังเปลี่ยนโลกของการชำระเงิน และเรามองเห็นอนาคตสำหรับการค้าทั่วโลก และการใช้จ่ายประจำวันจะขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยลูกค้าต้องการนำคริปโตมาใช้เป็น เครื่องมือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ถือไว้เฉย ๆ และการร่วมมือกับ Mastercard คือการทำให้ฝันเป็นจริง

ตอนนี้ผู้ใช้งาน Kraken ในยุโรป และสหราชอาณาจักร สามารถลงชื่อเข้ารอใช้งานบัตรเดบิตคริปโตได้แล้ว เพื่อเตรียมตัวนำ Bitcoin ไปใช้ซื้อกาแฟ ช้อปปิ้ง หรือจ่ายค่าบริการในชีวิตจริง ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ของการนำ Bitcoin มาสู่การใช้งานจริงในระดับผู้บริโภค

ก่อนหน้านี้ Mastercard ก็เคยร่วมมือกับ Mercado Bitcoin เพื่อเปิดตัวระบบ Crypto Credential ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานโอนคริปโตแบบ P2P โดยใช้ชื่อผู้ใช้ง่าย ๆ แทน address ยาวเหยียด

ที่มา : bitcoinmagazin

ข่าวต่อไป