เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังรัสเซียเสนอให้รัฐบาลพัฒนา Stablecoin ของตัวเอง หลังเกิดกรณีที่สหรัฐฯ และผู้ให้บริการ Stablecoin อย่าง Tether ดำเนินการแช่แข็งกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Garantex ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโตที่ถูกคว่ำบาตร
ตามรายงานจาก Reuters Osman Kabaloev รองผู้อำนวยการแผนกนโยบายการเงินของกระทรวงการคลังรัสเซีย เผยว่า รัฐบาลควรพิจารณาพัฒนา Stablecoin ที่คล้ายกับ USDT ของ Tether เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อ Stablecoin เริ่มกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในระบบการเงินโลก
“เรายังไม่จำกัดการใช้ Stablecoin ภายใต้ระเบียบทดลองในประเทศ แต่เหตุการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือนี้อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับเรา … นี่จึงเป็นเหตุผลให้เราควรพิจารณาการสร้างเครื่องมือภายในประเทศที่คล้าย USDT และอาจผูกค่าเงินกับสกุลอื่น”
เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ร่วมกับเยอรมนีและฟินแลนด์ ดำเนินการอายัดโดเมนของ Garantex โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้มีการประมวลผลธุรกรรมจากเงินที่ได้จากการกระทำผิดอาญากว่า 96 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เริ่มดำเนินงานในปี 2019 ขณะเดียวกัน Tether ได้แช่แข็งเหรียญมูลค่า 27 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ Garantex ต้องหยุดการดำเนินงานทันที

ทั้งนี้ Garantex เคยถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 ฐานละเมิดกฎหมายฟอกเงิน ล่าสุดมีรายงานว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวพยายามกลับมาใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ และยังคงใช้ stablecoin ที่หนุนด้วยรูเบิลในการฟอกเงิน
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัสเซียบางรายพยายามผลักดันกฎหมายใหม่ให้สามารถนับรวมคริปโตเป็นทรัพย์สินตามกระบวนการกฎหมายอาญา โดยมีการเสนอให้สร้างกองทุนคริปโตของรัฐบาลเพื่อรวบรวมทรัพย์ที่ยึดได้จากคดีต่างๆ
นับตั้งแต่กลางปี 2023 ตลาด Stablecoin เติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่ารวมทะลุ 200 พันล้านดอลลาร์ในต้นปี 2025 ขณะที่รายงานร่วมจาก Artemis และ Dune เผยว่า จำนวนกระเป๋าเงินที่ใช้งาน Stablecoin เพิ่มขึ้นกว่า 50% ภายในปีเดียว
ปี 2024 ยังเป็นปีที่ Stablecoin ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะจากการใช้งานบอทซื้อขาย ส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมรวมพุ่งถึง 27.6 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าปริมาณรวมของ Visa และ Mastercard ไปกว่า 7.7%
ที่มา: Cointelegraph