การเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่นครเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ หลังประเทศจีนประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือเพียง 10% ขณะที่สหรัฐฯ ก็ลดภาษีสินค้าจากจีนจาก 145% เหลือ 30%
ภายหลังการประกาศดังกล่าว ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในเชิงบวกอย่างมาก ทำให้ล่าสุดมูลค่าตลาดได้เพิ่มขึ้น 1% โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ทะยานขึ้นสู่ระดับ 104,100 ดอลลาร์ และ Ethereum ที่ 2,500 ดอลลาร์ ขณะที่เหรียญ Altcoin ชั้นนำอย่าง XRP และ ADA ต่างเขียวถ้วนหน้า ดัชนี GMCI 30 ก็ปรับขึ้นมากกว่า 2% เช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวกเช่นกัน โดยดัชนีฟิวเจอร์สของ S&P 500, Nasdaq, Dow Jones และ Russell 2000 ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 2% ในช่วงพรีมาร์เก็ต ขณะที่ราคาทองคำซึ่งเพิ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ กลับร่วงลงกว่า 3% ตามข้อมูลจาก Yahoo Finance
ซึ่ง Arthur Hayes ผู้บริหารจาก Maelstrom ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X โดยกล่าวว่า นี่คือจังหวะที่ควร ‘ซื้อทุกอย่าง’ โดยเฉพาะในตลาดคริปโตที่กำลังได้รับอานิสงส์จากภาวะเสี่ยงเปิด (Risk-on)
ในขณะที่ Dr. Kirill Kretov นักวิเคราะห์อาวุโสจาก CoinPanel กล่าวว่า การลดภาษีนำเข้าช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อและส่งเสริมสภาพคล่องในระดับโลก ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม
ความเคลื่อนไหวนี้ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยมหภาคอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักร รวมถึงสำนักงานควบคุมการเงินสหรัฐฯ (OCC) ที่อนุญาตให้ธนาคารสามารถซื้อ-ขายคริปโตแทนลูกค้า และเก็บคริปโตไว้กับบุคคลที่สาม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดคริปโตจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ระดับความผันผวนของ BTC และ ETH ในช่วงนี้ยังแตกต่างกัน โดย BTC มีความผันผวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 37% เป็น 42% ขณะที่ ETH กระโดดจาก 52% ไปถึงเกือบ 90% ก่อนจะคงตัวอยู่เหนือ 80%

ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: TheBlock