เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ใช้งาน Reddit รายหนึ่งกำลังเป็นที่สนใจจากนักลงทุนคริปโต หลังจากเขาออกมาอัปเดตพอร์ตการลงทุนใน Bitcoin ที่เริ่มต้นจากการ “กู้เงิน” จำนวนมหาศาลเมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อเข้าซื้อ BTC ในช่วงตลาดขาลง
ผู้ใช้งานรายนี้เล่าว่า เขาเริ่มต้นลงทุนกับ Bitcoin แบบจริงจังในปี 2022 ด้วยความเชื่อมั่นว่าตลาดขาลงนั้นเป็นโอกาส ไม่ใช่จุดจบ โดยทยอยเข้าซื้อ Bitcoin รวมทั้งสิ้น 4.75 BTC ในช่วงที่ราคาอยู่ระหว่าง $16,000 ถึง $35,000 ต่อ BTC
การซื้อครั้งนี้เขาใช้เงินกู้จากสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตแบบดอกเบี้ย 0% โดยตลอดช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาชำระดอกเบี้ยไปแล้วราว 15,000 ดอลลาร์ และตอนนี้เหลือหนี้คงค้างเพียง 40,000 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้เงื่อนไขดอกเบี้ย 0% อีก 6-12 เดือน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุ $105,000 ต่อเหรียญ ทำให้มูลค่าพอร์ตของเขาพุ่งขึ้นไปแตะ $498,750 หรือประมาณ 15.96 ล้านบาท (อิงเรท 32 บาทต่อดอลลาร์) ส่งผลให้เขามีกำไรจากการลงทุนกว่า $333,000 หรือราว 10.65 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized gain) สูงถึง 201%
แม้ก่อนหน้านี้เขาค่อยย้ำกับตัวเองเสมอว่าจะไม่กู้เพิ่มอีก แต่เขายอมรับว่าอดไม่ไหว เมื่อราคา BTC พุ่งถึง $100,000 เขาตัดสินใจกู้มาเพิ่มอีก 25,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อ BTC เพิ่มอีก 0.25 BTC พร้อมบอกว่า “มันเจ็บใจเล็ก ๆ ที่เงินก้อนเดียวกันเมื่อสองปีก่อนเคยซื้อได้ถึง 1.25 BTC”
กลยุทธ์ที่เขาใช้เรียกว่า “Reverse DCA” หรือ การซื้อ Bitcoin ด้วยเงินก้อนแล้วทยอยจ่ายคืนเงินกู้รายเดือน แทนการทยอยซื้อด้วยเงินสดในแต่ละเดือนแบบ DCA ทั่วไป เขาเชื่อว่าหากเขาใช้วิธี DCA แบบปกติ คงไม่มีวันได้ถือ BTC ในปริมาณเท่านี้
เมื่อถึงช่วงถาม-ตอบ “คำถามยอดฮิตที่เขามักได้รับก็คือ “ทำไมไม่ใช้เงินเดือนมาซื้อแทนการกู้?” เขาตอบว่าเพราะการใช้เงินกู้ทำให้สามารถเข้าซื้อ BTC ได้ในช่วงราคาถูกจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยเงินเดือนประจำตามปกติ อีกคำถามที่เจอบ่อยคือ “แบบนี้เสี่ยงเกินไปไหม?” เจ้าตัวตอบกลับอย่างมั่นใจว่า “การกู้เงินซื้อสินทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่เราสามารถชำระหนี้ได้อย่างมีวินัย”
นอกจากนี้เขายังเปิดเผยวิธีคิดเบื้องหลังว่า การกู้เงินดอลลาร์ (ซึ่งเขามองว่าเป็นเงินเฟ้อและเสื่อมค่าต่อเนื่อง) เพื่อนำมาซื้อ Bitcoin (ซึ่งเขาเชื่อว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ) เป็นเหมือนการ “โจมตีเชิงเก็งกำไรต่อ USD” คล้ายกับแนวคิด Yen Carry Trade ที่วอลล์สตรีทใช้กันมานาน
สุดท้ายนี้ เขาไม่ได้มีเป้าหมายจะกลายเป็นมหาเศรษฐี แต่เพียงแค่อยากมีอิสรภาพทางการเงิน และถือ BTC เป็นเครื่องมือเพื่อความมั่นคงในอนาคต และกล่าวเสริมว่า เขายังไม่มีแผนจะขาย Bitcoin ในเร็ว ๆ นี้ แต่เขาวางแผนชำระหนี้ทั้งหมดให้เสร็จภายในช่วงกลางปี 2026
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงและอาจสูญเงินได้ทั้งจำนวน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อนเริ่มการลงทุน
ที่มา : Reddit